หลุยส์ วิตตอง เปิดตัวเครื่องประดับจิวเวลรี่ชั้นสูงคอลเล็คชั่นล่าสุด Stellar Times โดย Francesca Amfitheatrof อาร์ทิสติก ไดเร็คเตอร์แห่งจิวเวลรี ของหลุยส์ วิตตอง

Francesca Amfitheatrof  ยังได้นำจิตวิญญาณแห่งการเดินทาง มารังสรรค์เป็นแรงบันดาลใจสู่การผจญภัยในดินแดนกาแล็คซี่อันทรงพลัง พร้อมนำอัญมณีอันล้ำค่านานาสีสันมาเป็นตัวแทนสู่สัญลักษณ์แห่งดวงดาว

Interstellaire: หนึ่งในธีมที่รังสรรค์จากการตีความมุมมองแบบคาไลโดสโคป ดวงดาวที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ถ่ายทอดผ่านอัญมณีพลอยสี Spinel มาร้อยเรียงไล่สีต่อกันเป็นสร้อยคออย่างกลมกลืน สีสันของแกแลคซี่โทนม่วง ชมพู มาผสานรวมกันราวกับดวงดาวจากระบบสุริยะได้โคจรอยู่รอบลำคออย่างโดดเด่น

Apogee:ถ่ายทอดภาพที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของจินตนาการแห่งจักรวาล ผ่านการจับคู่อันน่ามหัศจรรย์ของอัญมณีสีเขียวและสีม่วงอมน้ำเงิน ราวกับทางเดินอันคดเคี้ยวผ่านห้วงอวกาศ สร้อยคอเส้นสายเรขาคณิตประดับเพชรแวววาวราวดั่งสายน้ำไหล ตกแต่งสลับแทนซาไนท์และอความารีนระย้าขับความโดดเด่นให้กับทัวร์มาลีนสีครามเม็ดใจกลางขนาด 34.88 กะรัตที่หายากยิ่ง

ส่วนอีกเส้น คือสร้อยพร้อมจี้รูปดอกไม้จากลวดลายโมโนแกรมอันเป็นไอคอนนิค ที่ประดับแทนซาไนท์สีม่วงขนาดใหญ่ 28.55 กะรัต

Planete Bleue: ธีมการตีความของโลกที่เชื่อมต่อกับจักรวาลผ่านแรงดึงดูด โดยใช้ Sapphire และมรกตเป็นไฮไลต์เด่นของสร้อยคอในสไตล์แบบมินิมัล ตกแต่งสายระย้าห้อยยาวประดับเพชรแบบบาแก็ตคัต และ LV Flower cut ที่ถ่ายทอดความบริสุทธิ์ของโลก ผสานความสวยงามของมหาสมุทรด้วยสีน้ำเงินจากแซฟไฟร์ และความเขียวของมรกต

Personalization คือหัวใจหลักของหลุยส์ วิตตองตั้งแต่เริ่มต้น และเพื่อเป็นการตอกย้ำเรื่องศิลปะความประณีตในการรังสรรค์ชิ้นงานพิเศษ หลุยส์ วิตตองเจียระไนเพชรออกมาในรูปแบบ Made- to-order พร้อมทั้งนำไปผสานในการดีไซน์เครื่องประดับจิวเวลรี่ชั้นสูงให้เป็นชิ้นงานที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น โดยทุกขั้นตอนของการทำงานของช่างฝีมือ ลูกค้าจะได้เข้ามามีส่วน ร่วมตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบรังสรรค์ผลงานอันล้ำค่าเพื่อเป็นเรื่องราวน่าจดจำที่สำคัญของชีวิต

การเจียระไนเพชรอันเป็นเอกลักษณ์ LV Cut ของหลุยส์ วิตตอง เป็นเทคนิคพิเศษของนวัตกรรมในการเจียระไนเพชรให้เป็นรูปสัญลักษณ์จากลวดลายโมโนแกรมของหลุยส์ วิตตอง ได้แก่ Star Cut และ Flower Cut

สวยหรูจนโดนสะกด! จิวเวลรี่ จาก Versace ดีไซน์ใหม่ ประดับลายหัวเมดูซ่า

Panthère de Cartier งานหัตถศิลป์และฝีมือชั้นครู สู่สัญลักษณ์แห่ง เสือแพนเตอร์

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ Limelight Gala กลไกอัตโนมัติซีรีส์แรกของ เพียเจต์

The post ล่องลอยในหมู่ดาว หลุยส์ วิตตอง “Stellar Times” การผจญภัยในดินแดนกาแล็คซี่ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

นอกจากเครื่องประดับ และนาฬิกาจะเป็นไอคอนิคของแบรนด์ในตำนานอย่าง Cartier แล้ว  หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าคอลเล็คชั่น ของแต่งบ้านจาก คาร์เทียร์  ก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ควรค่าต่อการเก็บ เหมาะกับเป็นรางวัลให้กับตัวเอง หรือเป็นของขวัญสุดพิเศษ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อสื่อแทนคำขอบคุณ หรือร่วมฉลองโอกาสพิเศษ เพื่อแสดงความซึ้งใจที่อยู่เคียงข้างและสนับสนุนคุณ หรือเพื่อเซอร์ไพรส์และบอกรักใครสักคน

ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ไม่นานนักหลังจากที่คาร์เทียร์ได้ก่อตั้งแผนก S หรือ Silver Department แผนกสร้างสรรค์ของขวัญที่หรูหราและมีระดับ รวมถึงแอคเซสเซอรี่ในชีวิตประจำวัน อาทิ ไฟแช็ก นาฬิกาพกพา และเข็มขัด ดังที่ (หลุยส์ คาร์เทียร์) หลานชายของผู้ก่อตั้งแบรนด์ได้กล่าวถึงความสำคัญของสิ่งของในชีวิตประจำวันต่างๆ ว่า “อันที่จริงแล้ว คาร์เทียร์มิได้รังสรรค์เพียงแค่เครื่องประดับหรืออัญมณีหรูหราเท่านั้น ผมคงจะกล่าวได้ว่า นอกจากเครื่องประดับของเราจะประดับประดาผู้สวมใส่ด้วยสร้อยคออันแพรวพราวแล้ว แอคเซสเซอรี่ของคาร์เทียร์ยังสามารถเข้าไปอยู่ในกระเป๋าถือในรูปแบบของตลับแป้ง กระจก หวีเล็กๆ หรือแม้กระทั่งกระเป๋านามบัตร โดยทุกชิ้นมีการประทับสัญลักษณ์บ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นคาร์เทียร์และศิลปะ”

หรูหรา 24/7 เพิ่มความไฮเอนด์ให้กับชีวิตด้วย ของแต่งบ้านจาก คาร์เทียร์

ของตกแต่งบ้าน, เครื่องเขียน, ของเล่นและเกม: 4 คอลเล็คชั่นในสไตล์ที่เป็นหนึ่งเดียว

ชุดสมุดบันทึกและดินสอ ของเล่นสำหรับเด็กทารก ชุดเกม แจกันสำหรับประดับตกแต่ง… สิ่งของเหล่านี้จะสร้าง   ความสุขให้แก่ตัวคุณและคนรอบข้าง เป็น 4 คอลเล็คชั่นเครื่องประดับตกแต่งและแอคเซสเซอรี่จากคาร์เทียร์ ที่จะแต่งแต้มความงดงามในชีวิต เริ่มจากการคัดเลือกวัสดุชั้นเลิศอย่างโลหะ พอร์ชเลน หนัง กระดาษ ผ้าแคชเมียร์ โดยคำนึงถึงความงดงามและความทนทานเป็นสำคัญ

แอคเซสเซอรี่ 4 คอลเล็คชั่นนี้ ประกอบไปด้วยสิ่งของที่สามารถใช้ประโยชน์และเพื่อความเพลิดเพลินสำหรับคนทุกวัย ทั้งเครื่องเคลือบพอร์ซเลนไปจนถึงสิ่งของที่พกพาได้ ทั้งหมดนี้ประทับด้วยสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเสือแพนเตอร์, โลโก้ Double C และสัตว์นานาชนิด อันเป็นเสมือนไอคอนอันโดดเด่นของเมซงคาร์เทียร์ ที่สะท้อนถึงประวัติความเป็นมาและโลกของคาร์เทียร์

ของตกแต่งบ้าน

ของตกแต่งบ้านแต่ละชิ้นมีความพิเศษซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็น ลายเสือแพนเตอร์, สัญลักษณ์ Double C, หรือลายริบบิ้น เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของการประดับประดา มีให้เลือกทั้งเครื่องเคลือบพอร์ชเลน อย่างถาดวางเครื่องประดับและแจกัน หรือไม้เคลือบแลคเกอร์ อย่างกล่องเก็บเครื่องประดับและนาฬิกา

อุปกรณ์เครื่องเขียน

คอลเล็คชั่นเครื่องเขียนจากคาร์เทียร์ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเติมเต็มความสนุกของการเขียน อุปกรณ์เหล่านี้  จึงเป็นเหมือนการสานต่อธรรมเนียมของคาร์เทียร์ นับตั้งแต่การเปิดตัวปากกาหมึกซึมรุ่นแรกจนก้าวสู่รุ่นใหม่ล่าสุดที่รังสรรค์โดยแผนกเครื่องเขียนประจำคาร์เทียร์ นิวยอร์ก ยกระดับให้กับศิลปะแห่งการเขียนด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่มาพร้อมลายเสือแพนเตอร์หรือลายริบบิ้น ทั้งสมุดร่างภาพ กล่องดินสอ แผ่นหมึกปั๊ม สมุดบันทึก เครื่องเขียน และบัตรเชิญ

ของขวัญสำหรับเด็กเล็ก

เติมเต็มความปิติยินดีด้วยของขวัญสำหรับสมาชิกใหม่ตัวน้อยที่แต่งแต้มด้วยลวดลายผีเสื้อ กระต่าย แพนด้าและสุนัขจิ้งจอก  โดยสัตว์แต่ละชนิดมีวงตาเป็นโลโก้ Double C ของเมซงคาร์เทียร์ ไม่ว่าจะเป็น ถ้วยวางไข่ ของเล่นเด็กที่มีเสียง ตุ๊กตาล้มลุก กรอบรูปเงินและผ้าห่มแคชเมียร์

 เกม

เพลิดเพลินไปกับเกมสำหรับเล่นคนเดียวและบล็อกตัวต่อที่ทำเอาคุณอดใจไม่ไหว มาในขนาดเล็กน่าสะสม พร้อมด้วยลวดลายที่เป็นสัญลักษณ์ของเมซงคาร์เทียร์ อาทิ คาร์เทียร์บอย ไปจนถึงกล่องของขวัญสีแดงที่ประดับด้วยลวดลายสีทอง

สัญลักษณ์ 4 อย่างของเมซงคาร์เทียร์กับสไตล์ที่ผสานเป็นหนึ่งเดียว

คาร์เทียร์ได้นำสัญลักษณ์ 4 อย่างของเมซงผสานเข้ากับแอคเซสเซอรี่ต่างๆ อย่างมีชั้นเชิง อาทิ เสือแพนเตอร์ ที่วาดลวดลายบนเครื่องพอร์ซเลนในสีสันตัดกัน ทั้งขาว ดำ เขียวและแดง, สัตว์นานาชนิด ได้แก่ ผีเสือ, กระต่าย, แพนด้า  บนคอลเล็คชั่นของขวัญสำหรับเด็กแรกเกิด

โดยสัตว์แต่ละชนิดมีดวงตาเป็น โลโก้ Double C ของเมซงคาร์เทียร์ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากลายเซ็นต์ของหลุยส์ คาร์เทียร์ (Louis Cartier) นำมาตีความใหม่เกิดเป็นลายริบบิ้นสีแดง, เฉดสีแดงแบบคาร์เทียร์และลวดลายต่างๆ ขนาดเล็กจิ๋ว เติมแต่งความสดใสให้กับคอลเล็คชั่นสิ่งของที่ให้ความสนุกสนาน ของตกแต่งและสิ่งของแต่ละชิ้นถ่ายทอดความรู้สึกออกมาด้วยตัวของมันเอง  ยิ่งอยู่ใกล้เท่าใดก็ยิ่งปรารถนาที่จะได้ไว้ในครอบครองดุจมีมนต์ดึงดูดครั้งแล้วครั้งเล่า

ทำความรู้จัก เสือแพนเตอร์ ไอคอนอันโดดเด่นของ คาร์เทียร์

ก่อนซื้อต้องรู้! วิธีสังเกต CARTIER LOVE BRACELET ดูง่ายๆ ว่าแท้หรือปลอม

The post หรูหรา 24/7 เพิ่มความไฮเอนด์ให้กับชีวิตด้วย ของแต่งบ้านจาก คาร์เทียร์ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

Rado x YOY เมื่องานศิลปะแทนที่ปัญญาประดิษฐ์  Rado True Square Undigital ผลงานการออกแบบโดยคู่ดูโอ้นักออกแบบชาวญี่ปุ่น

Rado x YOY เมื่องานศิลปะแทนที่ปัญญาประดิษฐ์ แต่ยังคงความฉลาดอย่างแท้จริง

ในช่วงกลางของยุคดิจิตอล คู่ดูโอ้นักออกแบบชาวญี่ปุ่น YOY ได้ทำการปรับแบบนาฬิกาที่มีชื่อเสียงที่สุดของ ราโด เพื่อให้ดูร่วมสมัยเช่นเดียวกับระบบอนาล็อก True Square Undigital ผสมผสานสัญลักษณ์แห่งการออกแบบที่แท้จริงทั้งสองอย่าง เข้าด้วยกัน แถบเชิงมุมของจอแสดงผลดิจิตอลนั้นคือนาฬิกาเซรามิกรูปทรงสี่เหลี่ยมของ Rado แต่ไม่ใช่ทุกอย่างจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป… นาฬิกาเรือนนี้มีความชาญฉลาดอย่างแท้จริง และปราศจากระบบดิจิตอลอย่างสิ้นเชิง

จอแสดงผลดิจิตอลและนาฬิกาเซรามิกรูปทรงสี่เหลี่ยมของ Rado ทั้งคู่เป็นตัวอย่างที่ดีของการออกแบบแห่งอนาคตของยุค 1980 YOY ชอบที่จะใช้ผลงานที่มีชื่อเสียงและนำมาสร้างนิยามใหม่ให้กับผลงานดังกล่าว รวมทั้งเติมความคิดสร้างสรรค์ ความชาญฉลาดและอารมณ์ขันเข้าไป เช่นเดียวกับวิสัยทัศน์ของ Rado True Square นาฬิกาที่ปราศจากระบบดิจิตอลเกิดจากการนำรูปทรงที่โดดเด่นของจอแสดงเวลาแบบเจ็ดส่วน ซึ่งเป็นรูปลักษณ์สไตล์คลาสสิกของนาฬิกาดิจิตอล มาปรับปรุงใหม่ และถ่ายโอนไปเป็นหน้าจอแสดงเวลาแบบอนาล็อกที่ใช้เข็ม Super-LumiNova สีขาวที่ส่องสว่างอย่างเด่นชัด ทั้งกลางวันและกลางคืน ตัดกันกับหน้าปัดสีดำด้าน ซึ่งทำให้ได้รูปลักษณ์ที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างบริบูรณ์

ตัวเรือนไฮเทคเซรามิกที่เป็นเอกลักษณ์ของ True Square ช่วยสร้างองค์ประกอบที่เหมาะสม และด้วยโครงสร้างแบบเป็นชิ้นเดียวที่เป็นนวัตกรรม จึงทำให้นาฬิกามีความบางเป็นพิเศษเพียง 9.6 mm ด้านหลังตัวเรือนเป็นไททาเนียมเคลือบด้วย PVD สีดำด้าน และสายนาฬิกาไฮเทคเซรามิกสีดำด้านยังช่วยให้นาฬิกามีนํ้าหนักเบาขึ้นอีกด้วย

 YOY คือสไตล์ไอคอน ที่มีพรสวรรค์ด้านการออกแบบสไตล์ร่วมสมัย เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นนวัตกรรมและวัสดุไฮเทคที่สร้างความประทับใจด้วยสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ ความทนทานและความต้านทานต่อรอยขีดข่วน Rado True Square Undigital ผสมผสานทุกสิ่งเข้าด้วยกันเพื่อทำให้ Rado เป็นดั่งที่จินตนาการไว้ นาฬิกาถูกขับเคลื่อนด้วยกลไกการเดินที่ทันสมัยซึ่งระบบไขลานอัตโนมัติไม่เพียงแต่เป็นงานศิลปะในตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นแบบอย่างในแง่ของความยั่งยืนอีกด้วย หรืออีกนัยหนึ่งคือ ปราศจากระบบดิจิตอลอย่างสิ้นเชิง

สำหรับ YOY นั้นเป็นสตูดิโอออกแบบในโตเกียวก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดย Naoki Ono และ Yuki Yamamoto ภายใต้คำขวัญ “Between space and object” พวกเขาอุทิศตนเพื่อการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ระบบแสงสว่างและการตกแต่งภายใน งานของพวกเขาสามารถพบได้ทั่วทุกมุมโลก เช่น ที่ MoMA YOY ได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมายทั่วโลกและได้สอนที่ Musashino Art University ตั้งแต่ปี 2015

The post Rado x YOY เมื่องานศิลปะแทนที่ปัญญาประดิษฐ์ แต่ยังคงความฉลาดอย่างแท้จริง appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

คฤหาสน์หลังงามสีส้มพาสเทล หลังคาปูด้วยกระเบื้องเทอร์– ราคอตตาสีส้มตามสไตล์บ้านอเมริกันแถบแคลิฟอร์เนีย บนอาณาจักร 20 กว่าไร่ในกรุงเทพฯ แวดล้อมด้วยต้นไม้ น้อยใหญ่ หน้าบ้านมีสนามไดรฟ์กอล์ฟส่วนตัวยาว 350 หลา มองเห็นริ้วสายน้ำพลิ้วตามแรงลม ดูโอ่อ่าและโดดเด่น ที่สำคัญที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวชีวิต งาน และความรัก ของ 3 สมาชิก ครอบครัว ว่องไววิทย์

เปิดคฤหาสน์หรูสีส้ม  ของ ครอบครัว ว่องไววิทย์

Home Sweet Home

ความพิเศษของบ้านหลังนี้คือ  เจ้าของซื้อแบบบ้านที่ได้รับรางวัลบ้านดีเด่นของ  Sater Design  บริษัทออกแบบบ้านชื่อดังในรัฐฟลอริดาของอเมริกา  ก่อนนำมาให้ทีม สถาปนิกและวิศวกรของไทยแปลงโครงสร้างเป็นแบบไทย  โดยมีคุณเฉลิมชัย  หรือที่ ภรรยาและเพื่อน ๆเรียกว่า “คุณชัย”  ผู้ซึ่งเรียนจบวิศวกรรมไฟฟ้าจากอเมริกา  และ เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  ดูแลทุกขั้นตอนของการก่อสร้าง  เผยถึงไอเดียการสร้าง บ้านหลังนี้ว่า

“ความที่ผมเรียนหนังสือและใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่อายุ 14 ปี จึงรู้สึกประทับใจ บ้านสไตล์แคลิฟอร์เนียที่มีหลังคาสีส้มของกระเบื้องเทอร์ราคอตตา ภายในออกแบบ ให้ดูโปร่ง เชื่อมพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ขนาดสร้างมา 50 ปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยัง ดูสวย ไม่ล้าสมัย “ผมซื้อแบบบ้านมากกว่า5 แสนบาทจากอเมริกา ถ้าจ้างสถาปนิกไทยออกแบบ ค่าออกแบบบ้านหลังนี้คงเป็นล้านตามราคาพื้นที่ ซึ่งพอเห็นฟลอร์แปลนของบ้านหลังนี้แล้ว เราสามารถจินตนาการได้เลยว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร เหมาะกับเราแค่ 3 คนไหม เพราะผมชอบบ้านที่มีโครงสร้างใหญ่ ๆ กว้าง ๆ เช่น มีห้อง Master Bedroom และห้องน้ำขนาดใหญ่อยู่ชั้นล่าง ตามสไตล์บ้านคนอเมริกันที่เน้นพื้นที่ห้อง Master มีพื้นที่ใช้สอยทุกอย่างอยู่ในนั้นครบ ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องแต่งตัว เฉพาะ ห้องน้ำพื้นที่เกือบ 30 ตารางเมตร มีทุกอย่างอย่างละสอง ทั้งอ่างล้างหน้า ฝักบัว อาบน้ำ โถส้วม ถึงขนาดคนอเมริกันมีคำพูดว่า ‘สามี -ภรรยาจะไม่ทะเลาะกัน ถ้ามี ของใช้ส่วนตัวแยกกัน’ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลารอ”

“คนอเมริกันส่วนใหญ่ชอบใช้ชีวิตหลังบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัว เพราะฉะนั้น หลังบ้านเราจึงมีสระว่ายน้ำเป็นเซนเตอร์ โดยมีตัวบ้านสองชั้นซึ่งเป็นกระจกใสโอบล้อมไว้ ไม่ว่าอยู่ห้องไหนในบ้านก็สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำยาว 20 เมตรได้ทุกมุม ให้ความรู้สึก เหมือนอยู่รีสอร์ต เวลาจัดปาร์ตี้ทุกอย่างจะจัดหลังบ้านหมด คนภายนอกก็มอง ไม่เห็นว่าเราจัดงาน และชั้นสองของบ้านก็มีระเบียงขนาดใหญ่ คือถ้าจัดปาร์ตี้ริมสระ ก็มีพื้นที่จัดงานทั้งสองชั้น”

“ผมกับภรรยามีเพื่อนเยอะ เวลาจัดปาร์ตี้บ้านนี้เคยรับแขกเป็นร้อยคนมาแล้ว ซึ่งแขกสามารถอยู่ได้ทุกส่วน ทั้งในบ้าน นอกบ้าน เพราะบ้านไม่ได้ถูกออกแบบเป็น สี่เหลี่ยมหรือเป็นห้อง แต่ออกแบบให้ดูมีมิติ เข้ามาในบ้านแล้วรู้สึกกว้าง มองเห็นห้องรับแขกและสระว่ายน้ำด้านหลัง ปีกซ้ายเป็นห้อง Master Bedroom ของเรา ปีกขวาแยกเป็นสองทาง ทางหนึ่งฉีกไปห้องนอนลูกชาย (น้องโอ้โห-ศุภกร) อีกทางหนึ่งเดินไปโซน Family Room ซึ่งมีครัวฝรั่งและโต๊ะรับประทานอาหารเช้า เดินตรงเข้าไปหน่อยจึงจะเป็นห้องนั่งเล่น ดูหนัง ฟังเพลง โดยมีห้องจัดเลี้ยง 18 ที่นั่งอยู่ปลายสุด สามารถมองวิวสระว่ายน้ำได้แบบพานอรามา การออกแบบ ดีมาก คือถ้ามีเพื่อนมาหน้าบ้าน เราอยู่ห้องจัดเลี้ยงหลังบ้านก็สามารถมองเห็น ทะลุมาได้เป็นทางยาวเกือบ 20 เมตร ทำให้บ้านดูใหญ่มาก หรือถ้าจัดปาร์ตี้ ในบ้าน เสียงก็ไม่รบกวนลูกชาย หรือถ้าลูกชายนัดเพื่อนมาแฮ้งเอ๊าต์ก็สบาย ไม่รบกวนกัน เพราะบ้านออกแบบเป็นสองปีก ให้มีพื้นที่เชื่อมต่อโดยที่ยังคง ความเป็นส่วนตัว จึงรู้สึกว่าเป็นบ้านที่มีฟังก์ชันการใช้งานเหมาะกับเราจริงๆ”

แต่งบ้านตามความชอบ

จุดเด่นของบ้านหลังนี้อยู่ที่ทุกห้องมีเพดานสูงเกือบ 4 เมตร  ยกเว้นห้องนั่งเล่น ด้านในที่เป็นห้องดูหนัง  ฟังเพลง  ที่เปิดโล่งขึ้นไปถึง 6 เมตร  ช่วยให้บ้านมีแสงสว่าง ลอดเข้ามาตามกรอบหน้าต่างกระจก  ใครที่เป็นคอหนัง  มาแล้วต้องร้องว้าว! เมื่อ  เห็นจอโปรเจ็กเตอร์Supernova Blade ขนาด 120 นิ้วที่ให้ภาพคมชัดระดับ 4K พร้อมด้วยลำโพงของ Devialet Phantom Gold จากฝรั่งเศส 12 ตัวรอบห้อง  ระบบเสียง Dolby Atmos มาจากลำโพงรอบทิศทาง  เสียงดีเยี่ยม  สุดยอดมากๆ

คุณชัยบอกว่า เขาและภรรยาช่วยกันตกแต่งทุกห้องด้วยตัวเอง ชอบ อะไรก็ใช้แบบนั้น ไม่ได้ใช้อินทีเรียร์ คุณภาวรีย์ หรือคุณนิ ฝ่ายภรรยาช่วยอธิบายว่า “เราเน้นอยู่สบาย ใช้งาน จริง โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์เองหมด เพราะเรามีบ้านอยู่ที่แอลเอ สหรัฐอเมริกา ด้วย เวลาเดินทางไปพักผ่อนที่นั่นก็ได้แวะไปดูของแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์เพื่อ มาใช้ที่บ้านเราและบ้านคุณพ่อคุณแม่คุณชัยด้วย เพราะบ้านเรามี 5 ห้องนอน บ้านท่านมี 5 ห้องนอน เฉพาะเตียงนอน Ralph Lauren เราก็ซื้อมา 10 เตียงแล้ว”

“เฟอร์นิเจอร์หลักๆที่ใช้มี3 แบรนด์  คือ  Ralph Lauren,  Thomasville และ Ethan Allen  ถ้าซื้อจากอเมริการาคาไม่แพงเท่าไหร่  ประหยัดค่าขนส่ง ได้ด้วย  เพราะใส่คอนเทนเนอร์ส่งมาทางเรือพร้อมกัน  บางชิ้นเป็นแบรนด์นำเข้า จากอิตาลี  อย่างโต๊ะอาหารนั่งทานมื้อเช้าง่ายๆมาจากอิตาลี  พิเศษตรงที่ใช้ กระจกแผ่นเดียวขึ้นรูปตั้งแต่ขาจนมาเป็นโต๊ะ  ราคา 800,000 บาท  ทำเอาคนยก หวาดเสียว  กลัวว่าถ้าแตกขึ้นมาเขาจะรับผิดชอบไม่ไหว”

คุณชัยเล่าเพิ่มเติมว่า  “แม้บ้านเราจะเป็นสไตล์อเมริกัน  แต่ผมมีเชื้อสายจีน เพราะฉะนั้นเมื่อคุณพ่อคุณแม่ให้ตุ๊กตาจีนฮกลกชิ่วและเทพเจ้ากวนอูปางต่างๆ  ตอนขึ้นบ้านใหม่  ผมเลือกมาวางในโซนรับแขกที่ค่อนข้างเป็นทางการ  ส่วนผนังรอบบ้านตกแต่งด้วยภาพเขียนผู้หญิง  เวลาไปเที่ยวประเทศไหนแล้วเห็นภาพ ผู้หญิงสวยๆผมชอบซื้อมาติดผนัง  ทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา”

ฝันให้ไกลไปให้ถึง

ถ้าเอ่ยถึงแวดวงเครื่องจักรกลอุตสาหกรรม  หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อ ว่องไววิทย์  ที่คร่ำหวอดสร้างเนื้อสร้างตัวในธุรกิจนี้มาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่  แต่พอ มาถึงรุ่นเขากลับเลือกที่จะเดินบนเส้นทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แทนการต่อยอด ธุรกิจของตระกูล  ดังที่คุณชัยเท้าความว่า

“สมัยเด็กผมชอบแกะของเล่นออกมาดูว่าข้างในเป็นอะไร  กลไกทำงาน อย่างไร  เวลานั่งรถผ่านตึกใหญ่ๆผมจะชอบจินตนาการว่าโครงสร้างตึกนั้นๆ  เป็นอย่างไร  ทำให้เราอยากสร้างตึกขึ้นมาบ้าง”

“พออายุ 20 กว่าๆ  ตอนที่ผมช่วยที่บ้านทำบริษัทเกี่ยวกับเครื่องจักรกล  ผมมองว่าธุรกิจของพ่อแม่มีทางตัน  ทั้งที่ตอนหนุ่มสาวท่านทำงานหนักมาก  พ่อผม จบวิศวะจากประเทศอังกฤษ  แม่เองก็มีความรู้เรื่องเครื่องกลเป็นอย่างดี  สมัยนั้น คุณพ่อพิมพ์ดีดจดหมายภาษาอังกฤษส่งต่างประเทศเพื่อสั่งเครื่องจักรเข้ามาขาย มีกี่เครื่องก็ขายหมด  แต่ปัจจุบันเปิดอินเทอร์เน็ตก็สั่งซื้อเครื่องจักรได้แล้ว  ถ้าเรา ไม่ปรับเปลี่ยนจะอยู่ไม่ได้  ยิ่งตอนหลังเครื่องจักรส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุม ซึ่งเราไม่มีแผนกค้นคว้าวิจัย  จึงซ่อมเครื่องจักรสมัยใหม่ไม่ได้  ที่สำคัญคือผม ไม่รู้สึกตื่นเต้นท้าทาย  เพราะรู้สึกว่าสร้างตึกที่พักอาศัยสนุกกว่า  ผมอยากสร้าง ตึกใหญ่ๆที่ตัวเองขับรถมามองเห็นยอดตึกจากที่ไกลๆแล้วภูมิใจว่าเราสร้างเอง  ถ้าอยู่กับพ่อแม่  ผมอาจเป็นแค่อาเสี่ย  แต่เราไม่ได้เก่งเท่าเขา  และเราไม่ได้สนใจ ด้านนั้น  แต่การได้สร้างตึกใหญ่ๆ  ผ่านไป 50-100 ปีตึกนี้ก็ยังอยู่  เป็นความรู้สึก ที่พิเศษกว่าสำหรับผม”

“ปี2538 ผมจึงลองแตกไลน์มาทำธุรกิจเรียลเอสเตท  เริ่มจากสร้าง คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์โครงการ ‘East Wood Park’ ย่านอ่อนนุช  ความที่เราเป็น วิศวกร  จึงเน้นโครงสร้างที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ  ไม่ได้เน้นสถาปัตยกรรม มากนัก  แต่ลูกค้าทุกคนแฮ็ปปี้  และเราได้เรียนรู้ไปในตัวว่าการก่อสร้างเป็นอย่างไร”

“จากนั้นจึงทำวิลล่านครินทร์  เป็นโครงการแนวราบมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท  มีผู้อยู่อาศัยราว 170 ครอบครัว  โดยให้เพื่อนคนไทยที่ออกแบบโครงการ ที่อยู่อาศัยชื่อดังในอเมริกามาช่วยวางผัง  เพื่อให้สมาชิกในโครงการออกมาใช้ชีวิต ร่วมกัน  รู้จักกัน  ช่วยดูแลซึ่งกันและกัน  เพราะการเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่สร้างบ้านเสร็จแล้วตีหัวเข้าบ้าน  แต่ผมต้องการสร้างสังคมและมูลค่าเพิ่มใน ระยะยาวให้ทรัพย์สิน  คนอเมริกันซื้อบ้านเพราะมองว่านี่คือเงินออมของชีวิตเขา  เขาจึงก่อสร้างอย่างดี  พอถึงเวลารีไทร์ขายบ้านไปอยู่คอนโด  มีเงินเก็บเป็นล้านดอลลาร์ ไว้ใช้  บ้านของเขาจึงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นๆ  เพราะการรักษาสภาพแวดล้อมและพื้นที่ ส่วนกลางให้ดูดี  มีระเบียบ  จึงอยากให้ทุกคนอาศัยอยู่ในบ้านที่แข็งแรงจริงๆ  มีการ รักษาสภาพแวดล้อม  โดยมีกฎข้อบังคับที่แข็งแรง  ถ้าไม่มีกฎ  บางคนจะเห็นแก่ตัว ด้วยการต่อเติมอะไรประหลาดๆ  เพราะมักคิดว่าบ้านของฉัน  ฉันจะทำอะไรก็ได้  แต่ความจริงคือคุณกำลังสร้างมลภาวะทางสายตาให้บ้านอื่น  ทำให้มูลค่าบ้านตก”

“ล่าสุดผมสร้างคอนโดมิเนียม 40 ชั้น ‘The Metropolis Samrong Interchange’ มูลค่า 6,000 ล้านบาท โดยไม่มีใครคิดว่าเราจะทำได้หรือสร้างเสร็จ เพราะเราเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ จู่ๆ มาทำโครงการ 1,750 ห้อง ใหญ่กว่า โครงการทั่วไป 3 – 4 เท่า ตอนแรกผมคงไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะชอบความ ท้าทาย ทุกอย่างเป็นแค่ตัวเลขในคอมพิวเตอร์ จึงมั่นใจว่าทำได้ แต่พอเริ่ม ก่อสร้างได้3 – 4 ชั้น ผมเดินเข้าไปในพื้นที่และเห็นความใหญ่ของโครงสร้าง ตอนนั้นถึงเริ่มฉุกคิดได้ว่าเราทำอะไรลงไป บ้าไปหรือเปล่า แต่ก็ด้วยความเป็นคนโชคดี ทุกอย่างจึงออกมาดี เพราะเราใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ และด้วย ความมีพื้นฐานเป็นวิศวกร เริ่มตั้งแต่ไอเดียการออกแบบสถาปัตยกรรมเองและ เข้าไปมีส่วนร่วมตัดสินใจวางสเป็คที่ดีตั้งแต่เริ่มออกแบบระบบโครงสร้าง ระบบน้ำ และไฟฟ้า ผมเน้นว่าอาคารของเราต้องมีความพิเศษด้านวิศวกรรมมากกว่า ตึกคอนโดทั่วไป เพราะครอบครัวของผมมีชื่อเสียงด้านวิศวกรรมมา 70 ปีแล้ว ผมจบปริญญาโทด้านการเงินมา ก็เลยวิเคราะห์ความเป็นไปได้ด้านการเงินเอง เลือกซื้อวัสดุเอง นั่งหัวโต๊ะดูแลควบคุมการก่อสร้างเอง”

“ที่สำคัญที่สุดเรามีคอนเซ็ปต์ Affordable Luxury คือขายความหรูหราและคุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้  จึงมั่นใจในโครงการว่าเราทำได้ดีไม่แพ้บริษัทพัฒนาใหญ่อื่นๆ ดูได้จากความมั่นใจที่ลูกค้าซื้อโครงการของเราเกือบหมดแล้วเพราะการสร้างอะไรที่มีความคงทนคือความฝันของเรา วันที่สร้างเสร็จผมเดินรอบคอนโดด้วยความภูมิใจ  การที่เราทำได้ดีไม่แพ้ใครคือความสำเร็จที่สะใจมากกว่าตัวเงิน เพราะเรารู้ว่าทุกคนจะมาอยู่อย่างมีความสุข  เขาได้มูลค่าของที่มากกว่าราคาที่จ่าย  ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราซื้อจากคนอื่นไม่ได้  บางคนถามว่าทำไมผมสร้างไม่กี่โครงการ  คำตอบคือ  ผมเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่เหมือนคนอื่น  เราไม่มีหุ้นส่วน  แต่ทำโครงการแต่ละโครงการใหญ่พอสมควร และใช้คนน้อยมาก  เท่าที่จำเป็นเท่านั้น  เพราะผมทำทุกอย่างด้วยตัวเอง  จึงสร้าง ได้ทีละโครงการ  แต่ละโครงการล้วนมีชีวิตจิตวิญญาณของผมอยู่ในนั้นครึ่งหนึ่ง”

ผู้ที่เป็นมือทองขายโครงการก็คือคุณนินั่นเอง  เธอเสริมว่า  “ความที่บริษัท เราไม่เคยมีผลงานโครงการใหญ่ๆระดับนี้มาก่อน  นิจึงช่วยขายห้อง  ชักชวน เพื่อนฝูงที่มั่นใจในฝีมือเรามาซื้อกว่า 200 ห้อง  จนถึงจุดหนึ่งคุณชัยบอกว่า ให้หยุดขายได้แล้ว  ขายเยอะเกินไปแล้ว”  เธอเล่าพลางยิ้มหวาน  พร้อมกับบุ้ยใบ้ ถึงอีกฝ่าย

“เพราะพอขายถึงจุดหนึ่ง  เรามั่นใจว่าธนาคารให้กู้แน่นอน  ที่ดินแปลงนี้ เดิมเคยเป็นโรงงานว่องไววิทย์  คนย่านสำโรงรู้จักดี  แม่ผมบอกว่าที่ตรงนี้เฮง (หัวเราะ)  เพราะเขาอยู่มาหลายสิบปีแล้ว  ซึ่งก็เฮงจริงๆ  เพราะการก่อสร้าง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดเวลาและประมาณการ  ไม่เคยมีปัญหาสักวันเดียว ซึ่งในโครงการระดับนี้ต้องบอกว่าโชคดีจริงๆที่ไม่มีปัญหาเลย”

สอนลูกให้รู้ค่าเงิน

“น้องโอ้โห” ลูกชายคนเดียวของคุณชัยและคุณนิ เพิ่งจบปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์จาก University of California at Irvine แต่เพราะคุณพ่อมองว่าวิชาชีวิต ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าวิชาความรู้ จึงหาวิธีสอนลูกผ่านการซื้อกิจการร้านอาหาร อิตาเลียนที่กระแสเงินสดไม่ค่อยดีมาให้เขาฝึกบริหารธุรกิจและคน”

“ผมอยากให้ลูกรู้ว่าเงินหายาก (หัวเราะ) และธุรกิจที่ไม่ค่อยดีจะเป็นสิ่งที่ ฝึกให้คนเก่งและฉลาด ซึ่งจากธุรกิจติดลบ ตอนนี้เริ่มมีกำไรแล้ว ผมมองว่า ธุรกิจที่ทำยากที่สุดคือร้านอาหาร อาหารต้องอร่อย เอาใจลูกค้า บริการดี คนเสิร์ฟ หน้าบึ้ง ลูกค้าก็หนีแล้ว สต็อกก็ต้องคุม แต่ถ้าเขาบริหารร้านได้ คุมคนได้ ต่อไป เวลาไปเรียนต่อปริญญาโทหรือเอก เขาจะได้ตั้งคำถามอาจารย์ที่สอนได้ถูกต้อง และเหมาะสมกับชีวิตจริง เพราะมีประสบการณ์มาแล้ว”

“จะได้ไม่เหมือนสมัยผมเรียนปริญญาโท สถาบันศศินทร์ เรียนจบมา 5 ปี ยังไม่รู้เรื่องเลย เพราะในตำรากับชีวิตจริงต่างกัน เราไม่เคยใช้ชีวิตลำบาก พอเริ่ม ทำงานจึงรู้ว่าเงินหายาก พอเริ่มบริหารคน มีลูกน้อง จึงรู้ว่าลูกน้องคิดอะไร”

“ผู้หญิงที่อยู่กับผมโชคดีที่สุด”

เจ้าของวาทกรรมนี้อธิบายว่า “เพราะผมไม่ต้องการให้ภรรยาหรือแม่บ้าน มาดูแลอะไรเป็นพิเศษ เรากินอยู่ง่าย อยากทานอะไรก็ออกไปทานตามร้าน ซึ่งบางวันราคาถูก บางวันโคตรแพงก็มี หรือถ้าไม่อยากออกไปข้างนอก ก็ทำ อาหารง่ายๆ ที่บ้าน ภรรยาผมสบายที่สุดแล้ว (หัวเราะ) ความที่เราโตที่อเมริกา คนอเมริกันทำทุกอย่างเอง เพราะฉะนั้นผมจะไม่คาดหวังอะไรจากใคร ใช้ชีวิตอยู่กันสบายๆ ผมดูแลตัวเองได้”

“ทุกปีเราต้องไปบ้านที่แอลเอ 2 ทริปกับครอบครัวเพื่อนๆ ที่สนิทกัน ซึ่ง บ้านที่เราซื้อเป็นบ้านมือสามแล้ว แต่ทุกวันนี้กำไร 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะโครงการรักษาสภาพแวดล้อมให้มีระเบียบเหมือนเดิม ไม่มีการนำถังขยะมาวางหน้าบ้าน ซื้อบ้านที่โน่นเหมือนได้ฟรี แล้วเราก็ขับรถไปเที่ยวแซนแฟรนซิสโก ลาสเวกัส ได้ไปช็อปปิ้งซื้อของดีถูกใจ ราคาไม่แพงและเราได้ใช้

“พอถึงเวลาช็อปปิ้ง ผมกับคุณนิต่างคนต่างช็อป ถ้าชอบสไตล์เสื้อผ้าร้านนี้ ผมซื้อเสื้อครั้งละ 10 ตัว ซื้อเสร็จไปนั่งรอในรถหรือร้านกาแฟ ปล่อยให้ภรรยา เดินช็อปไปเรื่อย ผมรอจ่ายเงินอย่างเดียว (หัวเราะ) ซึ่งผมเชื่อว่าผู้ชายเป็นอย่างนี้ แทบทุกคน ถ้าต้องเดินช็อปด้วยกันหรือยืนรอเขาเลือก เบื่อตายเลย” (ยิ้ม) “เขาก็โชคดีที่เราไม่ชอบให้ตัวต้องมาติดกัน” อีกฝ่ายแหย่พร้อมกับเสียง หัวเราะ

คุณชัยเสริมว่า “ผมไม่มีความรู้สึกว่าภรรยาต้องอยู่กับผมตลอดเวลาหรือ ทำตัวติดสามี ผมอยู่กับคนแบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน สู้ใช้ชีวิตแบบสบายๆ มีความสุข กว่า” เขาพูดยิ้มๆ

ฝ่ายหญิงเล่าบ้างว่า “การใช้ชีวิตคู่ก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง อย่างคุณชัย ชอบตีกอล์ฟทุกวันอาทิตย์ เย็นค่อยกลับมาเจอกัน ออกไปทานข้าวนอกบ้าน ด้วยกัน ส่วนนิมีเพื่อนหลายกลุ่ม บางวันเรานัดเพื่อนผู้หญิงมาชิตแชตกัน หรือไม่ ก็นัดเจอเพื่อนกลุ่มที่รู้จักสามีภรรยากันหมด วันเสาร์ถ้าว่างเราจะไปดูหนังด้วยกัน หรือถ้าบางทีเห็นเขาเครียด ๆ ก็แพ็คกระเป๋าจูงมือกันไปเที่ยว เพื่อให้เขาได้ พักสมอง”

คุณชัยช่วยปิดท้าย “ผมไม่ค่อยเก็บอดีตมาคิด ชอบมองไปข้างหน้า มากกว่า และทำงานของเราไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้ผมคิดเสมอว่าโชคดีมากที่เกิดมา เป็นลูกพ่อแม่ ตลอดชีวิตผมไม่เคยลำบากเลย เหมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ทุกงวด เพราะฉะนั้นชีวิตเราโชคดีกว่าคนส่วนใหญ่ในโลก “ผมเชื่อว่าการมองโลกในแง่ดีจะทำให้เห็นมุมมองดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต และทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น”

สามารถติดตมอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

คฤหาสน์พันล้านที่แอลเอ ของ ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ ยิ่งใหญ่ตระการตา 360 องศา!

อยากได้ ต้องได้! เจฟฟ์ เบซอส ควักเงิน 4.9 พันล้าน ซื้อคฤหาสน์หรูในเบเวอร์ลี่ฮิลส์

เบิกตากว้างเน้นๆ เปิด 10 บ้านหรู อลังการดาวล้านดวง ขึ้นชื่อว่า มีมูลค่าแพงที่สุดในโลก

The post เปิดคฤหาสน์หรูสีส้ม บนพื้นที่แห่งความสุข 20 กว่าไร่ ของ ครอบครัว ว่องไววิทย์ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ห้องน้ำของโรงแรมที่จะทำให้แขกผู้มาพักได้ประสบการณ์ประทับใจไม่รู้ลืม! เพราะความกว้างใหญ่อลังการ และครบครันด้วยเครื่องใช้สิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู จนต้องยกให้เป็น 10 ห้องน้ำสุดฟิน ที่กว้างกว่าคอนโดเราทั้งห้องเสียอีก! แบบนี้อาบน้ำวนไปค่ะ!

ที่พักหรูหราบางแห่งมี ห้องน้ำ ขนาดพอๆ หรือใหญ่กว่า พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดของบ้าน หรืออพาร์ตเมนต์ขนาดเล็ก เสียอีกนะคะคุณขา วันนี้เราจึงรวบรวม 10 ห้องน้ำที่ขึ้นชื่อว่า ใหญ่โตโออ่ากว้างใหญ่เว่อร์วังยิ่งกว่าห้องนอนมาให้ชมกัน เรียกว่าเห็นแล้วอยากกดจองที่พักไว้นั่งเล่นนอนเล่นในห้องน้ำเลยคร๊าา

Four Seasons Hotel ในโตรอนโต ประเทศแคนาดา

รู้สึกเป็นเจ้าหญิงทันทีตั้งแต่ก้าวแรก! กับที่พักระดับ 5 ดาวสุดหรูบนชั้น 21 ของโรงแรมสูงระฟ้าแห่งนี้ คุณจะได้พบกับ Royal ซึ่งเป็นห้องสวีทที่ใหญ่และหรูที่สุดของที่นี่ รวมถึงห้องน้ำอันใหญ่โตของมาสเตอร์เบดรูม ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว่า 320 ตารางฟุต (30 ตารางเมตร) ในส่วนของห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องหินแกรนิต มาพร้อมอ่างอาบน้ำหินอ่อนรูปไข่ กระจกเงา 2 บาน หน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ตึกรามบ้านช่องของนครโตรอนโตได้! โอ้ยยยย อาบน้ำไปฟินไป

Hôtel Le Royal Monceau Raffles ในปารีส

ยิ่งกว่าโรงแรมระดับ 5 ดาว ก็ต้องที่พักอันเก่าแก่ ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็นดั่ง “พระราชวัง” แห่งนี้นี่แหละคร๊า!!  ตัวที่พักตั้งอยู่ห่างจากฌองเอลิเซ่ Champs-Élysées เพียงไม่กี่อึดใจ อีกทั้งผู้มีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็น Madonna, Robert De Niro รวมถึงอดีตราชาเพลงป็อปอย่าง Michael Jackson ก็ล้วนแต่เคยเข้าพัก และเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องน้ำอันหรูหราของที่นี่

ห้องพักที่ถือเป็นสุดยอดของโรงแรมแห่งนี้คือ Royal Monceau Suite ซึ่งมาพร้อมกับงานศิลปะอันแสนวิจิตร เฟอร์นิเจอร์ที่สั่งทำขึ้นโดยเฉพาะ และแน่นอนที่สุด ห้องน้ำสุดหรูขนาด 320 ตารางฟุต (30 ตารางเมตร) โดยห้องน้ำนี้นั้นมีทั้งพื้นที่ฝักบัวแบบวอล์กอิน อ่างอาบน้ำแบบลอยตัวสไตล์ Clawfoot โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ TOTO จากญี่ปุ่น ชุดคลุมอาบน้ำผ้าเทอร์รีสุดหรู รองเท้าแตะ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ของ Clarins รับรองได้ว่าคุณจะประทับใจไม่รู้ลืม

 The Mark ในนิวยอร์ก

นิวยอร์กหรือที่มี่ฉายาว่า “Big apple” นั้นคุ้นเคยกันดีกับมหาเศรษฐีและความดูดีมีระดับ อาคารซึ่งมีชื่อเสียงแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อค.ศ. 1927 โดยภายหลังได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นโรงแรมสุดหรู ซึ่งมาพร้อมห้องสวีทที่มีราคาแพงที่สุดในโลกเพนท์เฮาส์ขนาด 12,000 ตารางฟุต (1,115 ตารางเมตร) ของที่นี่นั้นกินพื้นที่ถึง 2 ชั้น และได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปราสาทลอยฟ้า” โดยประกอบด้วยห้องนอน 5 ห้อง ดาดฟ้าขนาด 2,500 ตารางฟุต (232 ตารางเมตร) ซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ของ Central Park ห้องสมุด

และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ห้องน้ำอันเลิศหรูอลังการซึ่งมีด้วยกันถึง 6 ห้อง โดยหนึ่งในนั้นยังมาพร้อมกับห้องอบไอน้ำอีกด้วย ห้องมาสเตอร์เบดรูมของที่นี่ มีห้องน้ำแยกสำหรับหญิงและชาย ซึ่งมาพร้อมกับพื้นห้องติดตั้งระบบทำความร้อน ที่ตกแต่งด้วยลวดลายเส้นสีขาวดำอันเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรม อีกทั้งยังมีอ่างน้ำแช่ตัวแบบอินฟินิตี้รวมถึงเครื่องใช้ในห้องน้ำของ Hermes ซึ่งสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ

Ponta dos Ganchos Resort ในประเทศบราซิล

เปิดประสบการณ์อาบน้ำแบบที่ลืมไม่ลง! ณ สถานที่ซึ่งซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าฝนของบราซิล ริมชายหาดอันเงียบสงบ Ponta dos Ganchos Resort คือสวรรค์บนดินขนาดย่อมๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัว โดยทอดตัวอยู่เหนือท้องทะเลสีมรกต ที่คุณจะรู้สึกเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง โดยเฉพาะห้องน้ำ! ภายใน Especial Esmeralda Villa คุณจะพบกับ ห้องน้ำอันเงียบสงบสไตล์สปาขนาด 350 ตารางฟุต (32.5 ตารางเมตร) ซึ่งตกแต่งด้วยไม้ Garapeira อีกทั้งยังมีโซฟาแบบเดย์เบดซาวน่าแห้ง อ่างน้ำวน ที่น่าลงแช่ตัวซึ่งหันหน้าเข้าสู่ทะเล พร้อมระบบสเตอริโอแบบบิลต์อิน พื้นที่สปาพร้อมเสื้อทาทามิบุนวม สำหรับบริการนวดผ่อนคลายในห้องพัก รวมถึงสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ที่อยู่ถัดไปด้านนอก

Hotel Cafe Royal ในลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร

เลิศหรูสไตล์ผู้ดีอังกฤษอะไรเช่นนี้! โรงแรม 5 ดาวใจกลางลอนดอนแห่งนี้ให้ความสำคัญกับห้องน้ำอย่างยิ่ง โดยไฮไลท์ของที่นี่คือ ห้องน้ำสุดหรูซึ่งปูด้วยหินอ่อนคาร์รารา และที่น่าประทับใจกว่านั้นคือ อ่างอาบน้ำของที่นี่ทำจากหินอ่อน ซึ่งนำมาแกะสลักด้วยมือทีละอ่าง นอกจากนี้ในห้อง Empire Suite ขนาด 2,282ตารางฟุต (212 ตารางเมตร) ของที่นี่ยังมีฝักบัวน้ำฝนอันน่าตื่นตาตื่นใจ! จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ รวมไปถึงเครื่องใช้ในห้องน้ำของ Floris แบรนด์อังกฤษชื่อดัง

Burj Al Arabดูไบ ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ได้ชื่อว่าเป็น “โรงแรมที่หรูที่สุดในโลก” สำหรับโรงแรมซึ่งตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัวแห่งนี้ ที่มาพร้อมความหรูหราและความเนี้ยบจนไร้ที่ติ โดยมีบริการแทบทุกประเภทตั้งแต่บัทเลอร์ส่วนตัว ไปจนถึง iPads ซึ่งทำจากทองคำ 24 กะรัต และอื่นๆ อีกมากมาย ห้อง Royal Suite ซึ่งกินพื้นที่ถึง 2 ชั้นนั้นมีเสาขนาดใหญ่ที่หุ้มด้วยทอง บันไดอันใหญ่โต ห้องสมุดส่วนตัว พร้อมหมอนที่มีให้คุณเลือกถึง 13 แบบ เพื่อให้คุณสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบายที่สุด ส่วนห้องน้ำ มีด้วยกันถึง 3 ห้อง! ห้องที่ใหญ่ที่สุดกินพื้นที่กว่า 1,163 ตารางฟุต (108 ตารางเมตร) ซึ่งมาพร้อมกับอ่างแช่ตัวรูปวงกลม เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหินอ่อน และทองมีอยู่ทั่วห้อง พื้นที่นั่งเล่นพร้อมหมองอิงหรูหราจำนวนมาก รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาบน้ำและน้ำหอมของ Hermes

Four Seasons Hotel ใน ฟลอเรนซ์

Four Seasons Hotel Firenze ตั้งอยู่ท่ามกลางหนึ่งในสวนหย่อมส่วนบุคคลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฟลอเรนซ์ ด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู พร้อมทั้งการประดับประดาที่ดูดีมีระดับ โรงแรมแห่งนี้จึงเป็นดั่งอัญมณีของสถาปัตยกรรมเรเนซองส์ หากคุณมีโอกาสได้เข้าพักในห้อง Royal Suite ของที่นี่ คุณจะได้สัมผัสกับพื้นที่อันกว้างขวางกว่า 2,500 ตารางฟุต(232 ตารางเมตร) ซึ่งมาพร้อมเพดานโค้งที่ตกแต่งด้วยงานศิลปะอันงดงาม ภาพเฟรสโกอันงามวิจิตร และพื้นเซรามิคสไตล์ CapodimonteMaioliche ของแท้

แต่ส่วนที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของห้องสวีทนี้คือ ห้องน้ำ ซึ่งกินพื้นที่เกือบ 500 ตารางฟุต (46 ตารางเมตร) ซึ่งประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์หินอ่อนทั้งห้อง กระจกเงาสุดหรูพื้นที่ฝักบัวแบบวอล์กอิน อ่างอ่าบน้ำซึ่งสามารถมองเห็นลานระเบียงส่วนตัว

Ritz Carlton ในฮ่องกง

โรงแรมแห่งนี้มาพร้อมความหรูแบบสุดขีด!  ตั้งอยู่ในตึกที่สูงเป็นอันดับ 5 ของโลกซึ่งตั้งตระหง่านอยู่เหนือ Victoria Harbour นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีบาร์ที่อยู่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย โรงแรมแห่งนี้มาพร้อมความหรูแบบสุดขีด โดยในห้องพักแต่ละห้องนั้นมีหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน และสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของฮ่องกงได้

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ 2 แห่ง ชุดผ้าเครื่องนอนที่ทอด้วยเส้นด้าย 400 เส้นต่อตารางนิ้ว หมอนขนเป็ด และงานศิลปะที่ไม่เหมือนใคร ยิ่งไปกว่านั้น ห้อง Ritz-Carlton Suite ของที่นี่ยังมีห้องน้ำปูหินอ่อนซึ่งมีขนาดเกือบ 700 ตารางฟุต หรือ 65 ตารางเมตร ที่มาพร้อมฝักบัวน้ำฝน อ่างแช่ตัวขนาดใหญ่ซึ่งสามารถมมมองเห็นทิวทัศน์อันงดงาม ห้องสุขา อ่างล้างหน้า 2 อ่าง และพื้นที่ซาวน่าแยกต่างหาก ลืมสปาไปได้เลย ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องน้ำเช่นนี้ คุณจะแทบไม่อยากออกจากห้องไปไหนเลย!!

UmaidBhawan Palace ใน อินเดีย Rajasthan, India

UmainBhawan Palace ที่สร้างขึ้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 กินพื้นที่กว่า 26 เอเคอร์ (105,218 ตารางเมตร ซึ่งเต็มไปด้วยสวนหย่อมอันงดงามและเขียวขจี ตัวอาคารของอดีตพระราชวังนี้ได้รับการตกแต่งในสไตล์อาร์ตเดโคและเรเนซองส์ โดยคุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของนครจ๊อดปูร์ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายจากที่นี่ได้ ที่พักแห่งนี้ยังได้รวบรวมวัตถุเก่าแก่สมัยวิกตอเรียและสมัยเอ็ดเวิร์ดให้คุณได้ชมอีกด้วย ห้อง Maharani Suite ซึ่งเดิมทีนั้นสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับของราชินี ถือเป็นที่สุดของความหรูหราและมีระดับ ด้วยห้องสวีทนี้ได้รับการตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม โคมไฟโครเมียมติดผนังที่ส่องแสงเปล่งปลั่ง โซฟาหนังเสือดาวเทียม และงานศิลปะซึ่งมีอยู่ในห้องตั้งแต่แรกเริ่ม จึงดูวิจิตรตระการตาอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ห้องสวีทนี้ยังมีห้องน้ำขนาด (447 ตารางฟุต)41.5 ตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วยอ่างจากุซซี่ ห้องอบไอน้ำ และที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคือ อ่างอาบน้ำที่ออกแบบโดย Stefan Norblin ซึ่งแกะสลักจากหินอ่อนสีชมพู 1 ก้อนจากอิตาลี

Four Seasons Resort Mahe Island, ในประเทศเซเชลส์

ใจกลางมหาสมุทรอินเดีย บริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะมาเฮ ในประเทศ Seychelles เป็นที่ตั้งของโรงแรม Four Seasons Resort อันงดงาม ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา โดยคุณจะพบกับ Serenity Villas ซึ่งเป็นดั่งบ้านต้นไม้ที่คุณสามารถรับไออุ่นจากแสงแดดได้ราวกับอยู่กลางแจ้ง นอกจากนี้ ห้องน้ำสุดหรูขนาด 340 ตารางฟุต(31.5 ตารางเมตร)ตกแต่งด้วยลายไม้อันงดงาม อีกทั้งยังมาพร้อมกับอ่างอาบน้ำหินอ่อนและฝักบัวน้ำสนที่คุณไม่ควรพลาด เมื่อมองทะลุกระจกที่อยู่โดยรอบของห้องน้ำ คุณจะมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของท้องทะเลอันใสสะอาด ผืนป่าอันเขียวชอุ่ม และภูเขาหินแกรนิต ไฮไลท์เด็ดคือ คุณจะพบกับสระอินฟินิตี้ส่วนตัว และพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งที่เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็น

ทั้งหมดนี้สมกับเป็น ห้องน้ำสุดฟิน ที่อยากอาบน้ำวนไปจริงๆ

เรียบเรียง : Red Apple_แพรวดอทคอม
ที่มา : Booking.com

เปิดราคา บ้านมือ2 ของคนดังฮอลลีวู้ด อยากใช้ชีวิตแบบซูเปอร์สตาร์ต้องมีเงินเท่าไหร่?

The post อาบน้ำวนไป! 10 ห้องน้ำสุดฟิน กว้างใหญ่อลังการ กว่าคอนโดเราทั้งห้อง!! appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

จากเรือยอทช์ Lamborghini มูลค่า 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ไปจนถึงตู้เพลง Hermès แบบสั่งทำพิเศษ และ Aston Martin สไตล์ James Bond ของเล่นคนรวย ของใช้สุดหรู 2020 สู่ 2021 มีไว้ไม่เอ้าท์ ประดับบารมีเก๋ๆ เสริมราศีมหาเศรษฐี

หมดปี 2020 ก้าวสู่ปี 2021 แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำพิษหลายสิ่ง โดยเฉพาะเรื่องการเดินทาง ทำเอาเหล่ามหาเศรษฐีอดสร้างงาน โพสต์รูปเก๋ๆ ในต่างแดนได้อย่างเคย แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามการใช้สินค้าฟุ่มเฟือยและการใช้ชีวิตที่เหนือระดับดูเหมือนจะไม่พร่อง เพราะแบรนด์หรูชื่อดังต่างรังสรรค์ไอเท็มใหม่ให้มีนวัตกรรมมากยิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองลูกค้าแบบจัดเต็ม มาพร้อมกับราคาที่แพงหูฉี่ แต่ก็ไม่ได้ระคายขนหน้าแข้งเหล่าบิลเลี่ยนแนร์สักเท่าไหร่

ของเล่นคนรวย ของใช้สุดหรู จาก 2020 สู่ 2021 มีไว้ ไม่มีเอ้าท์ ประดับบารมีเก๋ๆ

Hermès Horizon Jukebox มูลค่า 258,000 เหรียญสหรัฐ

หากนึกถึง Hermès หลายคนคงจะคิดถึงกระเป๋าหนังสุดหรู แต่รู้หรือไม่ว่า Hermès มีแผนก Horizon โดยเฉพาะ ซึ่งมีไว้สำหรับการสร้างสรรค์ไอเท็มสุดพิเศษ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตู้เพลงแฮนด์เมดสุดเก๋มูลค่า 258,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.7 ล้านบาท โดยตัวเครื่องบุด้วยหนังสวิฟต์ และ หนังคาฟ มาพร้อมลำโพง 6 ตัว และเครื่องเล่นเพลง ใครที่ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ สุดแสนจะเบื่อกับการฟังเพลงออนไลน์ จัดเลยจ๊ะ

Magico M9 มูลค่า 700,000 เหรียญสหรัฐ

เตรียมตัวล็อกดาวน์ แต่ใจก็ยังโหยหาคอนเสิร์ต หรือ การดูหนังในโรงแบบเสียงกระหึ่ม Magico M9 ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่จะทำให้คุณอยู่บ้านแบบไม่มีเบื่อ ด้วยสรรพคุณที่น่าทึ่งกับลำโพงคู่สูงสองเมตร มาพร้อมกับไดรเวอร์เสียงกลาง 15 ซม. (หกนิ้ว) ตัวขับเสียงกลางเบส 28 ซม. (11 นิ้ว) และตัวขับเสียงเบส 38 ซม. (15 นิ้ว) สนนราคา 1 คู่อยู่ที่ 700,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 20,993,000 ล้านบาท

Circu Magical Bun มูลค่า 40,000 เหรียญสหรัฐ

อลังการสุดๆ ไปเลยจ้าแม่ สำหรับไอเท็มชิ้นนี้ที่ทำขึ้นเพื่อลูกน้อย เพราะนี่คือเตียงนอนรถโฟล์คสวาเก้น โดยตัวทำจากไฟเบอร์กลาสชุบด้วยโครเมียม มีน้ำหนักมากถึง 1,460 กก. สนนราคา 40,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาน 1,199,600 บาท

หน้ากากเพชรมูลค่า 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

หน้ากากอนามัยจัดว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ในยุคนี้ไปเสียแล้ว เพราะจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 หน้ากากก็เป็นตัวช่วยที่ป้องกันเราจากเจ้าไวรัสร้าย แต่หน้ากากธรรมดาอาจจะไม่โดนใจมหาเศรษฐีชาวไต้หวันคนนี้มากนะ เขาจึงตัดสินใจทำหน้ากากที่เหนือไปอีกขั้น

โดยเมื่อต้นปี 2020 ที่ผ่านมา เขาได้มอบหมายให้ Yvel แบรนด์เครื่องประดับของอิสราเอล ทำหน้ากากเพชร ซึ่งประกอบไปด้วยทองคำขาว 18 กะรัต 250 กรัมประดับด้วยเพชรขาวดำธรรมชาติมากกว่า 3,600 เม็ด สนนราคา 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ 44,985,000 บาทกรุบ

เรือยอทช์ Lamborghini มูลค่า 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

ผู้ผลิตเรือยอทช์ Italian Sea Group และผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ Automobili Lamborghini ได้ร่วมมือกันพัฒนา เรือยอทช์รุ่นพิเศษ ซึ่งผลิตออกมาอย่างจำนวนจำกัด โดยเรือยอทช์ลำนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก Lamborghini Sián FKP 37 สนนราคา 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

Hästens Grand Vividus มูลค่า 390,000 เหรียญสหรัฐ

หลับสบายเหมือนอยู่ในสรวงสวรรค์หากคุณได้ล้มตัวลงบนเตียงนอน Hästens Grand Vividus จากสวีเดน ซึ่งว่ากันว่าเป็นเตียงนอนที่ดีที่สุดในโลก และมหาเศรษฐีทั้งหลายต่างถวิลหา เตียงนอนหลังนี้ได้รับความร่วมมือจาก Ferris Rafauli นักออกแบบชาวแคนาดาที่ได้รับรางวัลด้านออกแบบมากมาย ซึ่งหนึ่งในผลงานอันโดดเด่นของเขาคือ คฤหาสน์หลังงามของ Drake แร็ปเปอร์ชื่อดัง

Montblanc High Artistry Insignia of Power มูลค่า 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ

แรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์และความโรแมนติกของทัชมาฮาล รวมถึงอาณาจักรโมกุลในเอเชียใต้ กลายมาเป็นปากกาสุดหรูในรุ่น High Artistry Insignia of Power ของ Montblanc ปากกาด้ามนี้ประดับด้วยทองคำขาว ทับทิม และเพชรจำนวน 6.42 กะรัต สนนราคา 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ

Aston Martin V12 Speedster มูลค่า 950,000 เหรียญสหรัฐ

สำหรับผู้หลงใหลในรถยนต์ Aston Martin เป็นต้องกรีดร้องให้กับ Aston Martin V12 Speedster ที่สร้างโดย Q by Aston Martin ซึ่งความพิเศษของการออกแบบในรถรุ่นนี้คือ ตัวรถไม่มีหลังคา หรือ กระจกเลย อีกทั้งยังได้แรงบันดาลใจจาก DBS Superleggera ซึ่งรถรุ่นนี้ที่จะปรากฏในภาพยนตร์ เจมส์บอนด์ 007  No Time To Die

 Tirranna AMG Edition มูลค่า 2.99 ล้านเหรียญสหรัฐ

Mercedes เป็นผู้ผลิตรถยนต์อีกรายที่ได้นำเสนอความร่วมมือครั้งที่ 12 แล้วกับ AMG และ Cigarette Racing โดยการออกแบบเรือยอร์ชรุ่น  Tirranna AMG Edition ซึ่งมีขนาด 18 เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 130 กม. / ชม. สนนราคา 2.99 ล้านเหรียญสหรัฐ

CR : SCMP

.

The post ของเล่นคนรวย ของใช้สุดหรู จาก 2020 สู่ 2021 มีไว้ ไม่มีเอ้าท์ ประดับบารมีเก๋ๆ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

วงใหญ่เท่าไข่ห่าน อลังการงานสร้าง กับแหวนเพชรใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมาพร้อมเพชรจำนวนกว่า 12,638 เม็ด แน่นอนว่าถูกบันทึกโดย “กินเนสส์บุ๊ค” เป็นที่เรียบร้อย

สำหรับแหวนเพชนวงนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นโดย Harshit Bansal ผู้ก่อตั้ง Renani Jewels ใน Meerut ประเทศอินเดีย โดยเขาได้สร้างสถิติด้วยการออกแบบแหวนเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก และถูกบันทึกลง Guinness Book of World Records หรือ กินเนสส์บุ๊ค เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2020

แหวนวงนี้มีชื่อ Marigold หรือ “The Ring of Prosperity” ตัวเรือนถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นรูปดอกไม้ บนฐานวงกลมขนาดใหญ่ ประดับด้วยเพชรธรรมชาติ 38.08 กะรัตจำนวนหลายพันเม็ด ตามข้อมูลของกินเนสส์บุ๊ค แหวนวงนี้มีน้ำหนักมากกว่า 165 กรัม

อย่างไรก็ตามนี้ไม่ใช่แหวนวงแรกจากประเทศอินเดียที่ถูกบันทึกลง Guinness Book of World Records เพราะก่อนที่ “The Ring of Prosperity” จะเข้ามาล้มแชมป์ ในปี 2018 แหวนเพชรน้ำงามรูปดอกไม้ ซึ่งประดับด้วยเพชรจำนวน 7,801 เม็ด จาก Hallmark Jewellers ซึ่งเป็น บริษัท อัญมณีในไฮเดอราบาด ก็ได้ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นแหวนเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ Harshit Bansal ได้เผยกับกินเนสส์บุ๊คว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจในการทำลายสถิติแหวนเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลกปี 2018 ขณะที่เรียนออกแบบเครื่องประดับในสุรัตประเทศอินเดีย หลังจากนั้นสองปีต่อมา บริษัทของเขาก็ได้ออกแบบแหวนเสร็จในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2020 และมันได้ถูกบันทึกลงกินเนสส์บุ๊ค เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2020

ใหญ่โตมโหฬารอะไรขนาดนี้ อีกนิดจะปิดทุกนิ้วแล้วจ้า เรามาคอยดูกันว่าวงต่อไปใหญ่ได้อีกสักแค่ไหน…..

Cr: Renani Jewels, CNN

ของเล่นคนรวย ของใช้สุดหรู จาก 2020 สู่ 2021 มีไว้ ไม่มีเอ้าท์ ประดับบารมีเก๋ๆ

งดงาม ตราตรึง “The Satine necklace” เครื่องประดับเลอค่าแห่ง Moulin Rouge

เสน่ห์เลอค่า อสรพิษเพียงหนึ่งเดียวในโลก มูลค่า 8 หลัก ของคุณจรรยา สว่างจิตร

The post วงใหญ่เท่าไข่ห่าน! ยลโฉม แหวนเพชรใหญ่ที่สุดในโลก ถูกบันทึกโดยกินเนสส์บุ๊ค appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ศิลปะผสานความงามของธรรมชาติ สู่การรังสรรค์ “เครื่องประดับ” ชิ้นมาสเตอร์พีซจาก โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ (Lotus Arts de Vivre) 

หากลองสังเกตผลงานของ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ (Lotus Arts de Vivre) คุณจะได้สัมผัสถึงงานศิลปะชิ้นเอกที่ผสานความงดงามของธรรมชาติเข้ากับเทคนิคงานหัตถกรรมชั้นสูงของช่างฝีมือทั่วเอเชียที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น รังสรรค์เป็นเครื่องประดับ 

Gold Ring with Rubellite Diamond แหวนทองคำวงนี้โดดเด่นด้วย Rubellite (รูเบลไลต์) สีแดงเข้มอมชมพูประดับเพชรทรงบาแกตต์ ทรงสามเหลี่ยมและทรงกลม รวมน้ำหนัก 0.61 กะรัต ทั้งนี้รูเบลไลต์ ในสมัยโบราณอัญมณีชนิดนี้ถูกใช้เป็นเครื่องประดับสำหรับสตรีสูงศักดิ์ในราชสำนัก และเป็นเครื่องรางป้องกันอันตรายจากคุณไสยต่างๆ รวมถึงเป็นอัญมณีที่ส่งผลในเรื่องของความรักอีกด้วย

Gold Ring with Carved Jade and Diamondแหวนทองคำดีไซน์โก้ด้วยหยกแกะสลักอย่างประณีต ซึ่งช่างฝีมือต้องอาศัยทักษะชั้นสูงในการแกะสลักหยกที่มีลวดลายละเอียดสลับซับซ้อน นับเป็นศิลปะที่หาชมได้ยาก เพิ่มความหรูหราด้วยการประดับเพชรทรงบาแกตต์0.53 กะรัต

Dragon Ring with Carved Cinnabar Lacquer and Diamondแหวนมังกรทองคำวงนี้ ลำตัวมังกรแต่งด้วยCinnabar Lacquer (ซีนาบาร์ แลคเกอร์) หรืองานแกะสลักแลคเกอร์ของประเทศจีน เป็นศิลปะที่มีมานานกว่าสามพันปี โดยนำน้ำยางของต้นรักมีสีแดงเข้ม และมีคุณสมบัติพิเศษคือ กันน้ำ ทนความร้อน และมีความยืดหยุ่น มาแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ ส่วนหัวและหางประดับเพชร 0.63 กะรัต ใช้เวลารังสรรค์ประมาณ 8 เดือน

การนำ “กะลามะพร้าว” มาสร้างสรรค์เป็นเครื่องประดับแสนงดงาม เพราะกะลามะพร้าวเป็นวัสดุธรรมชาติที่มีคุณสมบัติน้ำหนักเบามีความแข็งแรงทนทาน สามารถแกะสลักลวดลายต่างๆ แต่ต้องใช้ช่างฝีมือที่มีความชำนาญระดับครูมาแกะสลัก รวมถึงการนำมาปิดแผ่นทองให้สวยงามมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นเครื่องประดับที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติที่มีความงดงาม มีมูลค่า สวมใส่ได้สบาย

Carved Coconut Earrings with Pearl, Earrings and Tsavorite ต่างหูกะลามะพร้าวแกะสลักลวดลายโบราณและคลาสสิก ปิดทองคำเปลว 24K ประดับไข่มุกน้ำจืดคุณภาพเยี่ยม มรกตแพนจ์เชียร์ (Panchshir Emeralds) 0.77 กะรัต ซึ่งเป็นมรกตที่ดีที่สุดของโลกจากอัฟกานิสถาน และ กรีน ซาโวไรท์ (Green Tsavorites) 2.76 กะรัต ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นอัญมณีแห่งมิตรภาพ ช่วยให้ประสบความสำเร็จในด้านการงานและการเงิน

Carved Coconut Necklace with Tsavorite, Pearl and Diamondสร้อยคอกะลามะพร้าวแกะสลักโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญ เนื่องจากกะลามะพร้าวมีความแข็งแรงทนทานมาก ลวดลายได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ปิดทองคำเปลว24K ประดับไข่มุก, พลอยซาโวไรท์ (Tsavorites) 1.3 กะรัต และเพชร 0.34 กะรัต

Carved Coconut Necklace with Diamond Pearl and Tsavorite สร้อยคอกะลามะพร้าวแกะสลักหุ้มด้วยทองคำเปลว 24K ประดับไข่มุกน้ำจืด เพชร 1.05 กะรัต และ พลอยซาโวไรท์ (Tsavorites) สีเขียว14.82 กะรัต

Carved Coconut Earrings with Diamond and Tsavorite ต่างหูกะลามะพร้าวแกะสลักหุ้มด้วยทองคำเปลว 24K ประดับไข่มุกน้ำจืด, เพชรทรงกลม 0.43 กะรัต, เพชรทรงสามเหลี่ยม 0.16 กะรัต, เพชรทรงหยดน้ำ 0.24 กะรัต และ พลอยซาโวไรท์ (Tsavorites) 6.02 กะรัต

อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของมาสเตอร์พีซในปีนี้ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ ผสานความสวยงามของธรรมชาติกับงานดีไซน์วิจิตรเหนือจินตนาการและเทคนิคจากช่างฝีมือชั้นสูง ปรากฏเป็นเครื่องประดับคอลเลกชั่น Carved Shell นำเปลือกหอยจากทะเลน้ำลึก หายาก ที่มีความแข็งแต่เปราะบางมาแกะสลัก ปิดทอง 24K ได้อย่างละเมียดละไม

โดยช่างฝีมือชั้นครู อายุเกือบ 80 ปี ผู้มีความชำนาญในการแกะสลักเปลือกหอยมานานกว่า 5 ทศวรรษ โดยคุณรอล์ฟ วอน บูเรน ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางรอบโลกเห็นงานศิลปะ Carved shell มีอายุ 300 ปี ตั้งแสดงในทุกพิพิธภัณฑ์

Carved Shell Earrings with Zambian Emeraldsต่างหูดีไซน์เก๋ทำจากเปลือกหอยแกะสลักปิดทอง 24K ประดับมรกตแซมเบีย 33.50 กะรัต และเพชร 1.51 กะรัต

Carved Shell Bangle with Zambian Emeraldกำไลข้อมือเปลือกหอยแกะสลักปิดทอง 24K ประดับมรกตแซมเบีย 25.715 กะรัต และเพชร 1.08 กะรัต

Carved Shell Ring with Zambian Emeraldแหวนไม้โดดเด่นด้วยเปลือกหอยแกะสลักปิดทอง 24K ประดับมรกตแซมเบีย 9.48 กะรัต และเพชร 1.18 กะรัต

Carved Shell and Wooden Ring with Diamondsแหวนไม้โดดเด่นด้วยเปลือกหอยแกะสลักปิดทอง 24K ประดับเพชรโกลคอนดา (Golconda Diamonds) 1.93 กะรัต เพชรที่ได้ชื่อว่ามีน้ำดีที่สุดของโลกและไม่สามารถหาได้อีกแล้ว และ เพชรทรงโรสคัท 0.30 กะรัต

Carved Shell Bangle with Diamondsกำไลข้อมือทำจากเปลือกหอยแกะสลักปิดทองคำ 24K ตรงกลางประดับเพชรโกลคอนดา (Golconda Diamonds) 1.93 กะรัต เพชรทรงโรสคัท 0.93 กะรัตและเพชรรูปหยดน้ำ 0.47 กะรัต

The post ศิลปะผสานความงามของธรรมชาติ สู่การรังสรรค์ “เครื่องประดับ” ชิ้นมาสเตอร์พีซ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

หลังจากเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 อย่างเป็นทางการ ปธน.โจ ไบเดน ก็ได้ฤกษ์ทำงานในฐานะผู้นำประเทศ แต่ครั้นจะเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือ รถยนต์ธรรมดาที่ไร้การป้องกันใดๆ ก็ดูเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้ ที่ไม่สู้ดีมากนัก ก็อาจเกิดอันตรายจากการลอบปองร้ายก็เป็นได้

การก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดของสหรัฐฯ เป็นผู้กุมอำนาจการบริหารของประเทศ ย่อมต้องมีคนชอบ และไม่ชอบ นั่นเป็นสาเหตุที่ทางการสหรัฐฯ จึงต้องเตรียมรับมือการลอบทำร้ายและ การถูกลอบสังหารที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยทุกเมื่อ ดังนั้นกองทัพสหรัฐฯ จึงต้องมีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้นำสูงสุดของประเทศ ซึ่ง The Beast “คาดิลแลค วัน” จึงกลายเป็นรถยนต์ประจำตำแหน่งที่คุ้มกันภัยร้ายต่างๆ ขณะเดินทางของผู้นำประเทศ

The Beast รถประจำตำแหน่ง อสูรกายป้องกันภัยร้ายของ ปธน.โจ ไบเดน

สำหรับ ‘The Beast’ หรือที่เรียกว่า ‘Cadillac One’ และ ‘First Car’ เปิดตัวในปี 2018 สร้างโดย General Motors บริษัทผลิตรถยนต์จากสหรัฐอเมริกา สนนราคาประมาณ 1.5 ล้านเหรียญต่อคัน (45 ล้านบาท) ข้อมูลจำเพาะที่แน่นอนของ Cadillac One ยังคงเป็นปริศนา โดยหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลรักษารถ เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย

อย่างไรก็ตามมีการเปิดเผยว่าคุณสมบัติเบื้องต้นของ ‘The Beast’ คือมีการหุ้มเกราะป้องกันซึ่งมาพร้อมกระจกกันกระสุนที่หนาถึง 5 นิ้ว ตัวรถปิดสนิททุกรอบด้าน อีกทั้งถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงยังหุ้มฉนวนกันระเบิดและไฟไหม้ รวมทั้งยังมีอาวุธตอบโต้ต่างๆ เช่น ปืนลูกซอง และ แก๊ซน้ำตา ไม่เพียงเท่านี้ภายในรถยังมีถังออกซิเจน และถุงเลือดสำรองที่มีกรุ๊ปเลือดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการถ่ายเลือดฉุกเฉิน

ห้องโดยสารคนขับแยกออกจากห้องโดยสารประธานาธิบดีสหรัฐฯ ภายในมีอุปกรณ์สื่อสาร และ ระบบติดตาม GPS พร้อมกับระบบมองเห็นตอนกลางคืนสำหรับคนขับ และฉากกั้นระหว่างห้องโดยสารทั้งสองสามารถลดลงได้โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้กดสวิตช์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านดาวเทียมในรถ โดยมีลิงก์ต่อตรงไปยังรองประธานาธิบดีและตึกเพนตากอน

โครงสร้างของรถ เห็นเป็นลีมูซีนดูหรูหราก็จริง แต่วัสดุที่ใช้ประกอบมีความแข็งแกร่ง ตามรายงานเผยว่า ‘The Beast’ มีน้ำหนักระหว่าง 6,800 กก. ถึง 9,100 กก. ตัวโฉมรถสามารถจดจำได้ทันทีว่าเป็นคาดิแลคด้วยไฟกระจังหน้าที่มีเอกลักษณ์

คนขับรถของ ‘The Beast’ เป็นสายลับที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากหน่วยสืบราชการลับ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในศิลปะการหลบหลีก รถประจำตำแหน่งของท่านผู้นำจะมี Cadillac One ทั้งหมด 2 คัน โดยเป็นรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมกับแขกไม่เกินสามคน และอีกคันเป็นรถสำรองที่ล้อมรอบด้วยขบวนรถคันอื่นๆ ซึ่งเป็นรถของทหารในทำเนียบขาว

ที่มา : gaadiwaadi.com

The post The Beast รถประจำตำแหน่ง อสูรกายป้องกันภัยร้ายของ ปธน.โจ ไบเดน appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

คุณค่าและมูลค่าของเพชรในมุมมองของคนทั่วไป อาจจัดให้อยู่ในเครื่องประดับราคาสูงที่ใครก็ต้องอยากมีไว้ในครอบครอง แต่ในมุมมองของนักลงทุนเพชร โดยเฉพาะ “เพชรกะรัต” คือ สินทรัพย์ที่ควรค่าแก่การลงทุน

สำหรับประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในเพชรหลังเกิดวิกฤต-โควิด 19 พบว่า บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก McKinsey & Company คาดการณ์ว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในกลุ่มอุตสาหกรรมฟุ่มเฟือยจะเปลี่ยนโฉม คนทุกวัยจะหันมาให้ความสำคัญกับการครอบครองสินทรัพย์เพื่อเป็นหลักประกันระยะยาวหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่ทั่วโลกกำลังเผชิญเช่นตอนนี้

เช่นนั้นแล้วต้องยอมรับว่าแทบไม่มีอัญมณีชนิดใดในโลกที่เทียบเคียงคุณสมบัติและคุณค่าของเพชรได้ เนื่องจากเพชร จัดเป็นแร่ที่แข็งแกร่งที่สุดตามสเกลของโมส์ (Moh’s scale) นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้นักลงทุนจับจุดได้ว่า เพชร เป็นสินทรัพย์ที่คงทนไม่ว่าจะผ่านไปกี่สิบปีหรือยาวนานกว่า 100 ปี คุณค่าและมูลค่าของเพชรก็ไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา และมูลค่าของเพชรนั้น ยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

ดังนั้นการซื้อเพื่อการลงทุนหรือซื้อเพื่อเป็นมรดกก็ย่อมสามารถทำได้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ เพชร  เป็นสินทรัพย์ที่ผันผวนตามสถานการณ์โลกหรือสภาพเศรษฐกิจน้อยกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ และถูกจัดให้เป็น Alternative Investment หรือ สินทรัพย์ทางเลือกที่ดี

แม้ว่า เพชร จะเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่มีความผันผวนในการซื้อขายน้อยกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ แต่ในมุมของการลงทุน นักลงทุนส่วนใหญ่มักมองว่าเพชรเหมาะที่จะซื้อเพื่อลงทุนระยะกลาง (1-3 ปี) ถึงระยะยาว ช่วง 3 – 5 ปี ขึ้นไป เพราะเป็นระยะเวลาที่สมควรและจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของราคาเพชรอย่างชัดเจนและคุ้มค่ากับการลงทุน

โดยประเภทเพชรเฉพาะ “เพชรกะรัต” หรือเพชรที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 1 กะรัตขึ้นไป เนื่องจากขนาดเพชรที่ใหญ่หรือมีกะรัตที่มากราคาก็มักจะปรับตัวสูงตามไปด้วย จึงทำให้นักลงทุนเพชรรู้ดีกว่า ยิ่งเพชรเม็ดใหญ่ก็ยิ่งหายากทำให้มูลค่าเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการ และเมื่อเทียบกับแนวโน้มตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5% เอาชนะเงินเฟ้อได้สบายๆ ดีกว่าการถือเงินสดหรือฝากธนาคารรับดอกเบี้ย

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญสำหรับการลงทุนเพชร คือ การเลือกเพชรที่มีคุณภาพที่ดี มีการการันตีจากสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจว่าเพชรที่ถืออยู่ในมือนั้นสามารถขายต่อได้ไม่ยาก มีใบรับรองเพื่อยืนยันว่าเพชรเม็ดนี้ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดในเรื่องของขนาด สี ลักษณะตำหนิ และการเจียระไนที่ได้ตามมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก อย่าง GIA (Gemological Institute of America) และ HRD (Hoge Raad voor Diamant (HRD) or Diamond High Council , Antwerp, Belgium)

สำหรับผู้ที่เริ่มสนใจที่จะเริ่มลงทุนใน “เพชร” อาจเริ่มด้วยการหาแบรนด์เพชรที่น่าเชื่อถือ อย่าง Jubilee Diamond แบรนด์เครื่องประดับเพชรอันดับหนึ่งของเมืองไทย ที่อยู่คู่คนไทยและมีความเชี่ยวชาญการจัดจำหน่ายเครื่องประดับเพชรมากว่า 91 ปี สามารถให้คำแนะนำในการเลือกซื้อเพชรจากผู้เชี่ยวชาญ ที่มีจำนวนสาขามากกว่า 130 แห่งทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ www.jubileediamond.co.th

เครื่องประดับเพชรทุกชิ้นเริ่มต้นจากวัตถุดิบเพชรที่ส่งตรงจากเมืองแอนท์เวิร์ป (Antwerp) ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเจียระไนเพชรที่ดีที่สุดในโลก ผ่านการผลิตด้วยขั้นตอนที่ประณีตจากนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น และการฝังเพชรด้วยเทคโนโลยี Microscope Setting พร้อมการการันตีคุณภาพเพชรด้วยใบ certificate จากสถาบันระดับโลกอย่าง HRD และ GIA ซึ่ง Jubilee เป็นแบรนด์เพชรเป็นเจ้าเดียวในประเทศไทยที่มอบใบเซอร์ฯคุณภาพเพชรตั้งแต่ 0.19 กะรัตขึ้นไป

The post เพชรกะรัต สินทรัพย์ที่ควรค่าแก่การลงทุน ถือไว้ได้นาน มูลค่าไม่ลด appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เลือกเครื่องประดับตามวันเกิด เสริมดวงให้วิบวับ เสริมความรักให้สดใสรับวาเลนไทน์ กับตัวแม่สายมู อ.ชัญญ่า ไพ่จิตสัมผัส 

ใกล้ถึงเทศกาลวาเลนไทน์ เชื่อว่าสาวๆ หลายคนอาจกำลังตั้งตารอของขวัญจากคนรัก โดยเฉพาะเครื่องประดับที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของคู่กับคุณผู้หญิง แต่ครั้นจะให้เขาเลือกเองก็อาจจะไม่ถูกใจ มาค่ะเรามีเคล็ดลับ เลือกเครื่องประดับตามวันเกิด ที่รับกับช่วงเทศกาลวาเลนไทน์โดยเฉพาะ ที่สำคัญเป็นการเสริมดวงด้านความรักจาก อ.ชัญญ่า ไพ่จิตสัมผัส 

ว่าแล้วก็ถึงเวลาเช็คดวงตามวันเกิด จากการเปิดไพ่เฉพาะกิจของ อ.ชัญญา ไพ่จิตสัมผัส  นักพยากรณ์ระดับท๊อปของประเทศ กับประสบการณ์การทำนายทายทักกว่า 20 ปี  เจ้าของวลีเด็ด “ไพ่ไม่เคยโกหก ไม่เคยเอาใจใคร” ออกสื่อและรายการดังมาแล้วนับไม่ถ้วน แถมยังได้รับฉายาหมอดูที่สวยที่สุดในเมืองไทยอีกด้วย พร้อมเผยเคล็ดลับเด็ดเสริมดวงความรักให้ยิ่งปังด้วยเพชรและจิวเวอรี่ ให้เดือนแห่งความรักนี้มีแต่รุ่งกับรุ่ง 

วันอาทิตย์ ของขวัญวาเลนไทน์ที่เหมาะสำหรับสำหรับคนเกิดวันอาทิตย์ คือเพชรรูปทรงหัวใจ เพื่อเสริมดวงเรื่องความรัก ส่วนใครที่อยากให้เดือนแห่งความรักราบรื่น บุตรหลานบริวารรักและเชื่อฟัง และป้องกันไม่ให้ต้องทะเลาะเบาะแว้งกับคนอายุน้อยกว่า ควรเลือกเพชรรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส หรือข้าวหลามตัด เปรียบเสมือนการตีกรอบให้เขาอยู่ในกรอบที่เราวางไว้ และเสริมความเด็ดขาดให้ตนเอง 

วันจันทร์ เดือนนี้ต้องทำงานมากและเดินทางบ่อย ให้เลือกเพชรรูปทรงหัวใจให้คนรัก จะช่วยประสานรอยร้าวได้ หรือหากใครคิดมอบของขวัญให้ผู้ใหญ่ ให้เขารักเมตตาเอ็นดู แนะนำเพชรทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือจตุรัส ล้อมด้วยเพชรกลม เสมือนผู้ใหญ่มีบริวารล้อมรอบ 

วันอังคาร คนเกิดวันอังคารมักชอบฝังใจกับเรื่องเดิมๆ แนะนำเครื่องประดับทรงรี เพื่อให้มีรู้สึกมีอิสรภาพ และปลดล็อคตัวเอง มั่นใจในตัวเอง กล้าแสดงออกในสิ่งที่ตัวเองเป็น แนะนำเป็นสร้อยข้อมือ หรือกำไล เน้นทองและเพชรให้อยู่ร่วมกัน หรือเน้นเรื่องความขลัง เช่น ลวดลายออกสไตล์วินเทจ ถ้าเลือกของขวัญให้กับหนุ่มๆขอให้เป็นแหวนชูเพชรให้เด่นไปเลย ใส่แล้วควรทำบุญสวดมนต์บ่อยๆด้วยจะเสริมดวงให้มีพลังชีวิตมากขึ้น 

วันพุธ เดือนนี้อาจจะของขึ้นง่ายใจร้อน ควรใส่เครื่องประดับทรงกลม จะช่วยให้ใจเย็น ผ่อนคลาย กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมหรือสภาพสังคมมากขึ้น ส่วนทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส จะช่วยให้รู้สึกมีชีวิตชีวา กลับมาอยู่ในกรอบ ในสังคม ควบคุมตัวเองได้บ้าง เพราะรักอิสระ รักการผจญภัยมากเกินไป จะช่วยให้ได้อยู่กับคนที่เรารักและคนที่รักเรามากขึ้นได้กลับมารักตัวเองดูแลตัวเองบ้าง เพราะมักจะหักโหมกับความสนุก ความท้าทายของตัวเองจนบางครั้งลืมรักษาสุขภาพ 

วันพุธกลางคืน แนะนำเพชรเม็ดใหญ่โดด และล้อมรอบด้วยเพชรเล็กๆ และขอให้มีทองคำอยู่ด้วย เพื่อเสริมและให้เสน่ห์กับเพศตรงข้ามด้วย รวมไปถึงเพศเดียวกันด้วย หรือกับผู้หญิงที่นิสัยเหมือนผู้ชาย ผู้ชายที่นิสัยเหมือนผู้หญิง แถมยังช่วยเรื่องอาชีพการงาน ให้ผู้ใหญ่รักและเมตตา เวลามีอะไรให้เข้าหาผู้ใหญ่ไว้จะดีเอง จะได้รับความเมตตาอุปถัมภ์มากขึ้น

 วันพฤหัสบดี เหมาะกับเครื่องประดับที่ชูเพชรเด่นอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยทอง ใส่แล้วจะสามารถผ่านด่าน ประสบความสำเร็จ และแก้ไขปัญหาทุกรูปแบบที่เผชิญอยู่ได้ โดยจะเป็นเครื่องประดับอะไรก็ได้ ขอให้ชูเป็นเม็ดเดี่ยว การเสริมดวงเรื่องความรัก ต้องให้เวลากับคนที่บ้านและควรกอดคนรักด้วย การมอบเครื่องประดับเป็นของขวัญจะเป็นสัญลักษณ์แทนความรักความห่วงใย ความปรารถนาดี คนรับจะได้นึกถึงคนให้ เวลาเขาทุกข์ เปรียบเป็นกุญแจไขปัญหา หรือเป็นคนที่นึกถึงเป็นคนแรก เป็นความทรงจำดีๆ เป็นคนช่วยจุดประกายความภาคภูมิใจ ความดีงาม และช่วยการแก้ไขปัญหาให้ได้ทุกๆเรื่อง 

วันศุกร์ ควรใส่เพชรรูปหัวใจเพื่อเสริมความรักให้ดียิ่งขึ้น หรือเป็นเพชรกลมหลายๆเม็ดเรียงกัน เพื่อช่วยรักษาเยียวยาตัวเองและคนรอบข้าง เพราะคนเกิดวันศุกร์มักเป็นคนที่คอยช่วยแนะนำ ช่วยเหลือคน ใครที่เคยทำให้แฟนงอน นอกใจ หรือจับผิดไปควบคุมหรือพูดจาให้เขาเสียใจ ควรซื้อเครื่องประดับให้ ถ้าแฟนเป็นผู้หญิงให้มอบเพชรรูปหัวใจถ้าเป็นผู้ชายให้เลือกเพชรทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า  

วันเสาร์ ควรเป็นเพชรเม็ดเดี่ยวขนาดใหญ่หน่อย หรือเป็นเครื่องประดับที่ชูเพชรเด่นจะช่วยให้มีพลัง ไม่ย้ำอยู่กับเรื่องเดิมนานๆ จะช่วยให้คนรักที่เกิดวันนี้ ซึ่งมักเป็นคนชอบคิดมาก ตอกย้ำเรื่องของตัวเอง ขี้เหงา ให้ร่าเริงสดใส รู้สึกภูมิใจ มั่นใจในตัวเองยิ่งขึ้น 

อ. ชัญญา ไพ่จิตสัมผัส  กล่าวเสริมว่า “เพราะเพชรและอัญมณีเป็นตัวแทนของความเลอค่า ไม่ใช่แค่มูลค่า    แต่เป็นความรู้สึกทางจิตใจต่อทั้งผู้สวมใส่ ผู้ให้ และ ผู้รับ วาเลนไทน์นี้ การแสดงความรักในรูปแบบต่างๆ อย่างการมอบของขวัญให้กับคนที่เรารัก คือสัญลักษณ์ของการให้คุณค่าแก่กันและกัน หรือแม้แต่การให้ของขวัญตัวเอง ก็ถือเป็นการให้คุณค่าและความภาคภูมิใจแก่ตัวเองด้วยเช่นกัน เพชรและอัญมณีนั้นล้วนมีคุณค่าอนันตกาล เพราะเกิดจากพลังธรรมชาติที่สั่งสมกันมาหลายร้อยพันปี ยืนหยัดผ่านสภาวะต่างๆมาเป็นเวลานาน จึงมีความเป็นนิรันดร์เหนือกาลเวลา แต่ไม่ว่าดวงเดือนกุมภาพันธ์นี้จะเป็นอย่างไร ผู้ใดเจออุปสรรคแล้วย่อท้อก็คือถ่าน แต่ถ้าพร้อมฝ่าฟันผ่านด่านจะสดใสและส่องประกายดังเพชร”

The post เลือกเครื่องประดับตามวันเกิด เสริมความรักให้วิบวับในวาเลนไทน์กับ อ.ชัญญ่า appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

มองดูแล้วมันคุ้นๆ มันใช้อย่างที่คิดละแมะ กับไอเท็มใหม่ ต่างหู สร้อยคอ และแหวน เครื่องประดับดีไซน์เก๋ ราคาครึ่งแสนจากแบรนด์ Bottega Veneta

ไม่รู้ว่าช่วงนี้แบรนด์หรูต่างๆ ได้ไอเดียในการดีไซน์เครื่องประดับจากของใช้ใกล้ตัวหรือเปล่าอย่างเร็วๆ นี้กับ กำไลข้อมือ และ แหวนจาก AMBUSH ราคาหลักหมื่นที่ดูคุ้นๆ เหมือน เคเบิ้ลไทร์ที่เอาไว้รัดสายไฟ หรือจะเป็น Ambush nomo clip earring เหมือนที่หนีบผ้าแล้ว 1 ในราคา 17,000 บาท

ด้านแบรนด์หรูอย่าง Balenciaga ก็ไม่น้อยหน้าดีไซน์กระเป๋าที่แฟนๆ เห็นแล้วถึงกับแซวกันระงมอย่าง Balenciaga Bazar bag กระเป๋าคุ้นๆ ดูเหมือนถุงกระสอบสีรุ้ง รวมถึง Balenciaga Blanket Square กระเป๋าที่ละม้ายกับถุงใส่ผ้านวม และ SUPERMARKET SHOPPER กระเป๋าที่ตัวเธอนั้นดูเหมือนถุงก๊อบแก๊บ

ล่าสุดอีกหนึ่งแบรนด์หรูอย่าง Bottega Venetaก็ได้ออกไอเท็มใหม่มาให้ชาวเน็ตฮือฮากันอีกครั้ง โดยรอบนี้เสิร์ฟเครื่องประดับดีไซน์เก๋สุดดดดดกับ ต่างหู สร้อยคอ และแหวน ที่ดูแล้วแสนจะคุ้นตา ละม้ายคล้ายกับของใช้ใกล้ตัวของสาวๆ ซึ่งชาวเน็ตลงความเห็นกันว่า มันเหมือนยางมัดผมเลยค่ะซิสสสสสส

โดยไอเท็มทั้ง 3 ชิ้นนี้ทำมาจากเงินแท้หุ้มด้วยเรซิน มาในสองสีคือ ม่วงลาเวนเดอร์ และ ขาว โดยตัวสร้อยคอนั้นสนนราคาที่ $2,295 เหรียญสหรัฐ (68,700 บาท) ส่วนต่างหูราคา $890 เหรียญสหรัฐ (26,700 บาท) มีถึง 5 สี และ แหวนราคา $540 เหรียญสหรัฐ ( 16,200 บาท) โดยมี 2 สีให้เลือกด้วยกัน

นอกจากนี้แฟนๆ ยังแซวกันระงมว่านอกจากจะเหมือน ยางรัดผมแล้ว ยังแอบคล้ายสายโทรศัพท์ที่ขดกันเป็นเกลียวอีกด้วย หยอกๆ

CR : Bottega Veneta, Balenciaga, Ambush

The post มองดูแล้วมันคุ้นๆ! เครื่องประดับดีไซน์เก๋ ราคาครึ่งแสนจาก Bottega Veneta appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

มากกว่าศิลปะแสนวิจิตรบนเครื่องบอกเวลาแต่ นาฬิกา Skeleton คือการผสานชั้นเชิงของเหล่าช่างนาฬิกาชั้นสูงที่มากด้วยวิสัยทัศน์ ความเชื่อมั่นและทักษะอันเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัทธ์ที่แสดงถึงความซับซ้อนแหวกขนบทั้งยังสง่างามไว้ด้วยกันโดยลดทอนตัวตนดั้งเดิมทั้งในแง่ตัวเรือนและชิ้นส่วนของกลไกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

LOVED BY THE STAR

เรือนเวลาแบบหน้าปัดเปลือย หรือ Skeleton Watch เรือนแรกของเมซงถือกำเนิดขึ้นราวทศวรรษที่ 1970s และเป็นที่ชัดเจนว่าด้วยอัตลักษณ์ที่ชวนสะดุดตาจึงทำให้ถูกเลือกไปประดับอยู่บนข้อมือของเหล่าคนดังได้ไม่ยากหนึ่งในนั้นคือตำนานนักดนตรีแจ๊ส นักทรัมเป็ตผู้ทรงอิทธิพล อย่าง ไมล์ส เดวิส (Miles Davis) ผู้มักปรากฏกายพร้อม Briefcase
ที่พกพาหลากเรือนเวลาคู่ใจติดตัวไว้เสมอ อาทิ Skeleton watch เรือนทองจากเพียเจต์ ที่เดวิสเลือกสวมใส่เป็นประจำบนเวทีสำคัญระดับโลก เรือนเวลาที่เชื่อมโยงเข้ากับวัฒนธรรมทางดนตรีของเขาไว้อย่างแนบแน่นทั้งในเรื่
องความซับซ้อนและแนวคิดนอกกรอบที่ไม่ซ้ำใคร

ULTRA-THIN SKELETONS…

และหากพูดถึงความไม่ธรรมดาของนาฬิกาสักเรือน เพียเจต์ถือเป็นแบรนด์ที่เลื่องชื่อในแง่การผลิตกลไกที่บางพิเศษมาอย่างยาวนานเพราะนอกจากคาลิเบอร์จะถูกพัฒนาให้มีดีไซน์เพรียวบางอย่างเหลือเชื่อแล้วโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมยังแฝงความประณีตขั้นสุดไว้อีกด้วยที่สำคัญเมซงไม่หยุดตั้งโจทย์ท้าทายตัวเองไม่ว่าจะเป็นการทยอยปล่อยกลไกสไตล์ Skeleton ออกมาทำลายสถิติโลกให้ฮือฮา การผสานฟังก์ชั่นที่ซับซ้อน อย่าง ตูร์บิญอง,มูนเฟส การผสานกับเทคนิคหัตถศิลป์ อย่าง อีนาเมล ตกแต่งด้วยเพชรหรือแม้แต่การจับคู่กับระบบกลไกแบบไขลานอัตโนมัติ

ANOTHER SKELETON FIRST – SKELETON WATCH

เรือนแรกจากคอลเลคชั่น POLO มาถึงคอลเลคชั่นปี 2021 กับเรือนเวลาหน้าปัดเปลือยชิ้นไฮไลต์แห่งปีจากเพียเจต์
ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับ Piaget Polo นาฬิกาลุคสปอร์ตสุดหรูที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1979 ซึ่งในการพัฒนาครั้งนี้ทีมดีไซเนอร์และวิศวกรการออกแบบได้หยิบคาแรคเตอร์เด่นของ Piaget Polo อย่าง ตัวเรือนโค้งมนที่ถูกครอบไว้ด้วยดีไซน์ขอบตัวเรือนทรงกลมหน้าปัดทรงคุชชั่น มาใส่ไว้อย่างครบครัน

โดยคีย์หลักอยู่ที่การลดทอนขนาดตัวเรือนจากรุ่นก่อนหน้านี้ลงถึง 30 เปอร์เซนต์ รวมถึงปรับแต่งกลไกแบบไขลานอัตโนมัติ 1200S ที่มาพร้อมโรเตอร์สลักตราสัญลักษณ์ของเพียเจต์ให้รับกับความบางในภาพรวมเพื่อส่งมอบ Piaget Polo ที่เพรียวบางสุดขั้วสู่ผู้ใช้งานตัวจริงทั้งยังสวมใส่สบายและเข้ากับไลฟ์สไตล์ในแต่ละวัน

และนี่คือเส้นทางสู่ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จที่ทุกคนต่างรอคอย กับ PIAGET POLO SKELETON – ONE WATCH, TWO STYLES.

ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 42 มิลลิเมตรที่ถึงแม้จะเป็นคอลเล็กชั่นสายสปอร์ตแต่ตัวเรือนกลับมีความหนาเพียง 6.5
มิลลิเมตร เท่านั้น

กลไกแบบไขลานอัตโนมัติ 1200S1 ที่พัฒนาและผลิตขึ้นในโรงงานของเมซงเอง มาพร้อมกับความบางแบบสุดขั้วเพียง 2.4 มิลลิเมตรหรือเทียบเท่าความหนาของแผ่นเวเฟอร์บางๆ เท่านั้น

แม้จะเป็นรุ่นล่าสุดของตระกูล แต่เมซงการันตีเรื่องความแม่นยำเที่ยงตรงและทนทานว่าสเป็กไม่แพ้รุ่นอื่นแน่นอน
โดยสามารถสำรองพลังได้ยาวนาน 44 ชั่วโมง ทั้งยังกันน้ำมาตรฐานระดับ 3 ATM

สายนาฬิกาดีไซน์รูปตัว H ขัดเงาซาตินที่ออกแบบให้ถอดเปลี่ยนสายรัดข้อมือได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นแบบสเตนเลสสตีล หรือ สายหนังจระเข้เรียบหรู

นำเสนอให้เลือก 2 เวอร์ชั่น; รุ่นกลไกสเกเลตันสีน้ำเงิน (G0A45004) และ รุ่นกลไกสเกเลตันสีเทา (G0A45001) ฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์อวดความหรูหราของโรเตอร์และความประณีตของกลไกทุกชิ้นส่วนสนนราคา 975,000 บาท

The post สวยสะดุดตา โดดเด่นไปด้วยอัตลักษณ์ นาฬิกา Skeleton ที่เหล่าคนดังถวิลหา appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ในฐานะ ambassador ของเอเชียจะเบาได้ไง เมื่อ ซงฮเยคโย เนรมิตลุคสวยดุจจักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศสจากเครื่องประดับสุดหรู Chaumet คอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด 

เครื่องประดับสุดหรู Chaumet เปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ที่ชื่อว่า Joséphine ได้รับแรงบันดาลใจมาจากจักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศส Joséphine ในฐานะภรรยาคนแรกของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จิตวิญญาณแห่งความเป็นผู้หญิงร่วมสมัยที่ยืนยงของเธอ เป็นบททดสอบของกาลเวลาที่ก้าวข้ามผ่านยุคสมัย เปิดเผยในการสร้างสรรค์คอลเล็คชั่นใหม่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเธอ ซึ่งมีแต่ซงฮเยคโยที่เหมาะกับแคมเปญนี้เท่านั้น เพราะนักแสดงหญิงชาวเกาหลีใต้มีภาพลักษณ์ที่สง่างาม เธอเป็นแรงบันดาลใจในการเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงร่วมสมัย

นักแสดงชื่อดัง ซงฮเยคโย แสดงความเป็นผู้หญิงของตัวเองออกมาอย่างไม่เกรงกลัว ด้วยสไตล์และความสง่างามที่เลียนแบบไม่ได้เช่นเดียวกับจักรพรรดินีโจเซฟีน ในคอลเล็คชั่นนี้ ซงฮเยคโย ให้คำจำกัดความผ่านไลฟ์สไตล์ของเธอเอง โดยเธอกล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นลุคผ่อนคลายสบายๆ หรือมีสไตล์เหมือนราชินี ผู้หญิงยุคใหม่ควรเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริงและปล่อยให้ตัวตนที่แท้จริงเปล่งประกายออกมา!”

สง่างามดั่งควีน ‘ซงฮเยคโย’ เปล่งประกายในเครื่องประดับสุดหรูจาก Chaumet

ซงฮเยคโย ในชุดสีขาวเสนอความงามตามธรรมชาติ โดดเด่นด้วยองค์ประกอบของต่างหู สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน และนาฬิกาสุดหรู

ส่วนเครื่องประดับในชุดสีดำ แม่ซงสวมรัดเกล้าประดับด้วยเพชรทรงลูกแพร์ทรงโค้ง ต่างหูทรงหยดน้ำและสร้อยคออันสง่างาม

ภาพ : Chaumet

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชมพูคือพลังบวก! ‘ดัชเชสเคท’ ออกงานแรก ตอบกลับ แฮร์รี่-เมแกน ผ่านนัยยะของสี

ทำลายภาพลักษณ์! แฟชั่น ลิซ่า ในรายการจีน แฟนคลับโวยมีแต่สไตล์เดิมๆ

ออร่าแรงมาก! เจี๊ยบ พิจิตตรา สวยอัพเลเวล ขึ้นรับรางวัลใน ชุดแบรนด์ไทย

The post สง่างามดั่งควีน ‘ซงฮเยคโย’ เปล่งประกายในเครื่องประดับสุดหรูจาก Chaumet appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ตำนานแห่ง เวนทูรา ถือกำเนิดขึ้น เมื่อ Hamilton ได้สร้างนาฬิกาที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เรือนแรกของโลกขึ้นในปี 1957 ซึ่งกลายมาเป็นนาฬิกาแห่งโลกอนาคต ราวกับนิยายแนววิทยาศาสตร์ได้กลายมาเป็นจริง ภายใต้ตัวเรือนทรงสามมุมที่สะดุดตา พร้อมดีไซน์คลื่นไฟฟ้าบนหน้าปัดได้พลิกโฉมวงการนาฬิกาของโลกไปตลอดกาลนับตั้งแต่นั้นมา

VENTURA ELVIS⁸⁰ SKELETON นาฬิกาทรงสามเหลี่ยมรุ่นตำนาน ที่พร้อมพลิกโฉมโลกแห่งอนาคต

 นาฬิการุ่นตำนานอันล้ำยุคอย่าง Ventura กลับมาพร้อมดีไซน์ใหม่ล่าสุดในชื่อ  Ventura Elvis⁸⁰ Skeleton ภายใต้การตีความความคลาสสิกของ Ventura ในรูปแบบใหม่ เพื่อสร้างสรรค์รูปลักษณ์ที่ทันสมัยอย่างรูปทรง Elvis⁸⁰ ซึ่งเป็นรูปทรงที่ได้รับการตั้งชื่อตาม Elvis Presley ผู้ที่ถือเป็นแฟนตัวยงของนาฬิกา Ventura

Ventura Elvis⁸⁰ Skeleton กลายมาเป็นนาฬิการะบบอัตโนมัติแทนระบบไฟฟ้า ซึ่งได้สร้างนิยามใหม่ให้กับการผลิตนาฬิกาในทุกมิติ ด้วยกลไกอันโดดเด่นที่ปรากฏบนหน้าปัด โดยหน้าปัดเปลือยของตัวเรือน Ventura Elvis⁸⁰ Skeleton เผยให้เห็นกลไก H-10-S สุดล้ำ พร้อมการตกแต่งที่โฉบเฉี่ยวแบบ Côtes de Genève  มาพร้อมการสำรองพลังงานถึง 80 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าเราได้ผสานอดีต ปัจจุบันและอนาคตเข้าด้วยกัน โดยยังคงไม่ทิ้งรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของ Ventura  ด้วยดีไซน์คลื่นไฟฟ้าที่ถูกนำเสนอผ่านลายซิกแซ็กบนโครงสร้างหน้าปัดแบบเปลือยหรือโครงกระดูก (skeleton)

Ventura Elvis⁸⁰ Skeleton มีมาให้เลือกใน 2 แบบ 2 สไตล์ แบบแรกคือตัวเรือนสีดำเคลือบ PVD และหน้าปัดเปลือย ตัดกันอย่างโดดเด่นด้วยดีไซน์คลื่นไฟฟ้าสีแดง อีกแบบหนึ่งคือตัวเรือนสีโรสโกลด์เคลือบ PVD โดดเด่นด้วยดีไซน์คลื่นไฟฟ้าสีโรสโกลด์ โดยทั้งสองแบบจะมาพร้อมกับสายข้อมือยางสีดำ

นาฬิกา Ventura Elvis⁸⁰ Skeleton ซึ่งเปรียบเสมือนวิวัฒนาการของนาฬิการุ่นคลาสสิกที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์อย่าง Ventura ถือเป็นนาฬิกาแห่งโลกอนาคตอันทรงพลังที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความคิดก้าวนำอย่างแท้จริง

The post เวนทูรา นาฬิกาทรงสามเหลี่ยมรุ่นตำนาน ที่พร้อมพลิกโฉมโลกแห่งอนาคต appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ทุกปี Van Cleef & Arpels จะร่วมเฉลิมฉลองให้กับการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิด้วยงานออกแบบซึ่งแสดงออกถึงความเบิกบาน สดใส มีชีวิตชีวาสำหรับปี 2021 นี้ เมซงสรรค์สร้าง Lucky Spring ขึ้นเป็นคอลเล็คชั่นเครื่องประดับอัญมณีที่ทรงเอกลักษณ์ด้วยงานร้อยแผ่นโมทิฟหลากสีสันเพื่อเป็นตัวแทนฤดูแห่งการกำเนิดใหม่

เติมความเบิกบาน แต่งแต้มความสดใสกับ Lucky Spring จาก Van Cleef & Arpels

สร้อยคอยาวหนึ่งสาย สร้อยข้อมือสามเส้น เข็มกลัดหนึ่งอันและต่างหูหนึ่งคู่ ต่างจุดประกายความเบิกบานสดใสด้วยแผ่นโมทิฟเต่าทอง ซึ่งมาพร้อมกับดอกไม้ และใบไม้ ด้วยการใช้วัสดุ    เลอค่าต่างๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทองคำสีกุหลาบ แผ่นแม่มุกมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ล โมราสีเพลิงหรือหินคาร์เนเลียนและนิลดำหรือออนิกซ์ ความกลมกลืนและอ่อนช้อยของบรรดาเครื่องประดับชิ้นบอบบาง กระจุ๋มกระจิ๋มชุดใหม่นี้ คือบทเพิ่มเติมความครบครันให้แก่สวนรัตนชาติชวนฝันของ แวนคลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์

เครื่องประดับนำโชคอันถือเป็นหนึ่งในแนวทางการออกแบบที่ แวนคลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์ นิยมชมชอบเป็นพิเศษ ถูกนำมาใช้กับธรรมชาติ หนึ่งในแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจสำคัญประจำเมซงเพื่อปลุกชีวิตอันเบิกบานให้แก่ผลงาน Lucky Spring แต่ละชิ้น ไม่ว่าจะเป็นเต่าทอง ดอกเหมย ตลอดจนดอกทรงกระดิ่งคว่ำ หรือใบเรียวเล็กของลิลลี ออฟ เธอะ วัลเลย์ ล้วนเติมเต็มความงดงามให้แก่กันละกันได้อย่างลงตัว ลีลาไล่ลำดับระยับแสงเหลื่อมประกายถ่ายทอดมุมมองสดใสที่ Van Cleef & Arpels มีต่อชีวิตได้อย่างทรงเอกลักษณ์

ตลอดกระบวนการสร้างสรรค์ ทุกองค์ประกอบล้วนได้รับการศึกษา และพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนเริ่มขั้นตอนวาดภาพร่างแบบลายงามสง่าสำหรับโมทิฟแต่ละแผ่น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนความหรูหราจากธรรมชาติที่จะมาร่วมฉลองตอนรับการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ

คล้ายกับเป็นการเชื้อเชิญให้มาร่วมงานเฉลิมฉลองแก่การฟื้นตื่น หรือกำเนิดใหม่ของมวลธรรมชาติ ฝูงเต่าทอง ใบไม้และดอกไม้ ต่างมาร่วมกันถ่ายทอดความร่าเริง สดใสอยู่บนสายสร้อยเส้นยาวกับสร้อยข้อมือร้อยโมทิฟห้าแผ่น และเพื่อแสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียด ใจกลางดอกเหมยผลิบานยังประดับไว้ด้วยปุ่มเกสรทองคำหรูหรา เช่นเดียวกับวงกลีบดอกแม่มุก ซึ่งเลือกใช้เฉดสีที่กลมกลืนกับประกายเหลือบเงาวามวาวของลิลลี ออฟ เธอะ วัลเลย์ เครื่องประดับหลายชิ้น ยังร้อยประดับใบไม้ทองสีกุหลาบแต่งรายละเอียดบนพื้นผิว ที่จะแกว่งไกวไปตามทุกอากัปการเคลื่อนไหว

สร้อยข้อมือสองเส้นโดดเด่นด้วยเต่าทอง ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงการฟื้นตื่นจากหลับใหลของมวลรุกขชาติหลังฤดูหนาวอันยาวนานได้ผ่านพ้น ด้วยความยาวเกือบ1.5 เซนติเมตร แมลงตัวน้อยน่ารักนี้ ได้รับการออกแบบต่างท่วงท่าอากัป ทั้งแบบหุบปีกพักกายสงบนิ่ง หรือกางปีกทั้งสองข้างอย่างเต็มที่คล้ายพร้อมจะออกบิน รองรับงานฝังแผ่นโมราสีเพลิงต่างปีกตัดกันนิลดำขลับล้ำลึกต่างศีรษะ ซึ่งล้วนอยู่ท่ามกลางการยึดตรึงของแถวลูกปัดกลมทำจากทองคำสีกุหลาบต่างหนามเตย และยังกลมกลืนกับงานฝังหัวหมุดทองคำขัดผิวเรียบเนียนจำลองจุดตามธรรมชาติที่ปรากฏอยู่บนปีก ในส่วนของเต่าทองเจ้าของท่าทีพร้อมบิน ปีกที่กางออกยังเผยให้เห็นลำตัวรองล่างใต้ปีกทำจากทองคำสีกุหลาบขัดผิวขึ้นเงาราวกระจกสกาวแสงจรัสตา

เข็มกลัด Lucky Spring ได้รับการออกแบบประหนึ่งเป็นเวทีรองรับงานแสดงแห่งฤดูใบไม้ผลิด้วยการประกอบชิ้นส่วนแผ่นโมทิฟต่างลวดลายลดหลั่นระดับสูงต่ำ ก่อมิติเร่งความสว่างให้แก่ประกายล้อแสงของแผ่นโมราสีเพลิง ตัดกับเนื้อแม่มุกเหลือบวาวเป็นเงางามของแผ่นโมทิฟลายดอกไม้ ส่วนต่างหูดอกเหมย ช่วยเติมเต็มความครบครันแก่คอลเล็คชั่น จุดประกายความปรารถนาให้ครอบครองด้วยความอ่อนช้อย สง่างาม

พริ้วไหวดุจสายน้ำ Van Cleef & Arpels เผยคอลเลคชั่น Brume de saphir ละไอหมอกของไพลิน

The post เติมความเบิกบาน แต่งแต้มความสดใสกับ Lucky Spring จาก Van Cleef & Arpels appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เรื่องราวต่อเนื่องของ นาฬิกา Nantucket (แนนทัคเก็ต) กับ Chaîne d’Ancre (เชน ดอนซ์) ที่ปลุกให้นึกถึงวันเริ่มต้นเรือนเวลา Nantucket ได้สร้างสรรค์รูปแบบที่เด่นชัดมายาวนานเกือบเป็นเวลา 3 ศตวรรษ โดยเรื่องราวทั้งหมดที่เชื่อมโยงกันเริ่มต้นขึ้นในปี 1991 เมื่อ อองรี ดอริญี (Henri d’Origny) นักออกแบบของแอร์เมส (Hermès) ผู้ปฏิวัติรูปแบบดั้งเดิม ร่างภาพสเก็ตของนาฬิกาที่คู่กับ เคป คอด (Cape Code)

ซึ่งโดดเด่นไม่แพ้กันในชื่อ Nantucket นาฬิกาที่เผยถึงความกล้านี้มีรูปทรงของ “สี่เหลี่ยมผืนผ้าในสี่เหลี่ยมผืนผ้า” รูปแบบตัวเรือนที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากโซ่สมอเรือที่เชื่อมโยงถึงสร้อยข้อมือ Chaîne d’Ancre (เชน ดอนซ์) ความคลาสสิกแห่งแอร์เมสจากจินตนาการของ Robert Dumas-Hermes (โรเบิร์ต ดูมาส์-แอร์เมส) ในปี 1938

เผยเรื่องราวของ นาฬิกา Nantucket จาก Hermès แรงบันดาลใจจากโซ่สมอเรือ

เรื่องราวของ Nantucket ดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ด้วย Chaîne d’Ancre (เชน ดอนซ์) ที่ปลุกให้นึกถึงวันเริ่มแรก ผลงานรุ่นนี้นำเสนอด้วยการเชื่อมของข้อต่อรูปแบบใหม่ที่ผสานเข้ากับสร้อยข้อมือสตีลเงางามหรือทองคำโรสโกลด์ที่ดูอบอุ่น เข็มชั่วโมงและนาที ที่กวาดไปด้วยความเที่ยงตรงน่าเชื่อถือผ่านตัวเลขในดีไซน์ฟอนต์ที่ได้แรงบันดาลใจจากจักรวาลของ Chaîne d’Ancre

ตัวเรือนของแนนทัคเก็ตผลิตจากทองหรือสตีลในเวิร์กช้อปผลิตนาฬิกาของแอร์เมส และประดับเพชรอย่างเป็นอิสระ แสงจะทอประกายบนพื้นหน้าปัดเคลือบเงินพ่นทราย ต้องขอบคุณเพชรที่โปรยประดับหรือประกายระยิบระยับของเพชรที่ประดับรอบพื้นหน้าปัดเปลือกหอยมุก ด้วยสัมผัสที่บางเบาและเป็นธรรมชาติ นาฬิกา Nantucket ได้แทรกรหัสความงามสง่าแห่งการปฏิวัติไว้อย่างชัดเจน

ภาพ : Hermès

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สง่างามดั่งควีน ‘ซงฮเยคโย’ เปล่งประกายในเครื่องประดับสุดหรูจาก Chaumet

เติมความเบิกบาน แต่งแต้มความสดใสกับ Lucky Spring จาก Van Cleef & Arpels

สวยหรูจนโดนสะกด! จิวเวลรี่ จาก Versace ดีไซน์ใหม่ ประดับลายหัวเมดูซ่า

The post เผยเรื่องราวของ นาฬิกา Nantucket จาก Hermès แรงบันดาลใจจากโซ่สมอเรือ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ยลโฉม 3 ชุดสุดอลังการ ผลงานระดับ “โอตกูตูร์” ของ Iris Van Herpen แบรนด์ดังที่เหล่าคนดังระดับโลกเลือกใช้

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “โอตกูตูร์” แต่น้อยคนที่รู้ว่า “โอตกูตูร์” เปรียบเสมือนคำศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกคุ้มครองภายใต้กฎหมายรัฐบาลฝรั่งเศส ปัจจุบันมีแบรนด์โอตกูตูร์เพียง 22 แบรนด์เท่านั้นบนโลก ซึ่งนอกจากแบรนด์ดังตลอดกาลอย่าง Chanel, Christian Dior, Versace ฯลฯ แบรนด์โอตกูตูร์รุ่นใหม่อย่าง Iris Van Herpen ถือเป็นแบรนด์ที่น่าสนใจแบรนด์หนึ่งแห่งยุค

นอกจากดีไซน์อันโดดเด่นสะดุดตา Iris van Herpen มีชื่อเสียงจากการใช้เทคโนโลยีอย่างเช่น 3D printing และ laser-cut มาผสมผสานในการทำชุดชั้นสูงตามแบบโอตกูตูร์ รวมถึงการร่วมงานกับศิลปินชื่อดังมากมาย เช่น อดีตวิศวกร NASA ศาสตราจารย์ชื่อดัง ไปจนถึงหน่วยงานองค์กรนิวเคลียร์ปรมาณู!

ปกติแล้ว Iris van Herpen เป็นดีไซน์เนอร์ที่เข้าถึงยากคนหนึ่งของวงการ เธอเคยปฏิเสธลูกค้ากระเป๋าหนัก และดาราดังที่ต้องการสวมชุดของเธอเพียงเพื่อออกงานฉาบฉวย หรือเรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ทำเพื่ออุดมการณ์ศิลปะอย่างแท้จริง

ผลงานของ Iris van Herpen เรียกได้ว่าตราตรึงทุกชุด โดยเฉพาะ  3 ชุด ที่เรานำมาให้คุณยลโฉม ซึ่งรวมมูลค่าแล้วกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในนี้คือชุดที่นักร้องดังระดับโลกอย่าง Christina Aguilera เข้าฉากเพลง Reflection ประกอบภาพยนต์เรื่อง Mulan ในปี 2020

Physalia Dress

เป็นชุดที่ Christina Aguilera ใส่ในมิวสิควิดีโอเพลง Reflection ประกอบภาพยนต์เรื่อง Mulan ในปี 2020 ความพิเศษของชุดนี้คือไอริสได้ร่วมงานกับศิลปิน Shelee Carruthers ในการวาดภาพสีน้ำมันที่สื่อถึงท้องทะเล แล้วไอริสก็ได้นำภาพตรงนั้นมาพิมพ์ลงไปบนผ้าไหมออแกนซา พร้อมกับเทคนิคการจับจีบผ้าแบบพิเศษ ทำให้ได้รูปทรงคล้ายคลื่นทะเลที่กำลังซัดและเคลื่อนไหวอยู่บนร่างกายของผู้ใส่ สนนราคา 1,200,000 บาท

Seijaku Dress

Seijaku คำนี้เป็นคำภาษาญี่ปุ่น มีความหมายว่า การตามหาความสงบ ท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิต โดยที่ไอริสได้ศึกษาเรื่องของคลื่นความถี่เสียง (Cymatics) แล้วตีความสิ่งนามธรรมนี้ ให้ออกมาเป็นรูปธรรมผ่านคอลเล็คชั่นโอต์กูตูร์ ความพิเศษของชุดนี้คือ การนำผ้าไหมออแกนซาญี่ปุ่นที่มีเส้นบางกว่าเส้นผมคนถึง 5 เท่า ถักทอขึ้นแล้วมาย้อมสีผ้าด้วยเทคนิคย้อมผ้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นเรียกว่า ชิโบริ เป็นการกั้นสีเพื่อให้เส้นคมชัด สีไม่หลุดกระจายออกไป จนออกมาเป็นแพทเทิร์นที่สื่อถึงคลื่นเสียง สนนราคา 1,500,000 บาท

Obit Gown

จากคอลเล็คชั่น Hypnosis เป็นลุคที่สื่อถึงภาพลวงตา หลอกตา ที่พบเห็นได้ตามธรรมชาติ แต่ถูกตีความและเล่าผ่านชุดโอตกูตูร์ตามสไตล์ห้องเสื้อ Iris Van Herpen ความพิเศษคือการมีเลเยอร์ชิ้นส่วนผ้าออแกนซาที่มีความมันวาวรอบตัว ทำให้เกิดลุครูปทรงกลมและมีมิติ สนนราคา 2,300,000 บาท

ทำในสิ่งที่ชอบด้วยใจรัก เจน-ทิพย์วิภา ตั้งเป้าพา ลาสเทล เข้าสมาคมโอต์ กูตูร์

The post ยลโฉม 3 ชุดสุดอลังการ ผลงานระดับ “โอตกูตูร์” ของห้องเสื้อ Iris Van Herpen appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

Tiffany&Co. ชวนสัมผัสความงามและสีสันของธรรมชาติผ่านเครื่องประดับหรูระดับโลก กับ Blue Book Collection อันเลื่องชื่อ

Tiffany &Co. เปิดตัว Blue Book Collection คอลเล็คชั่นเครื่องประดับหรูอันเลื่องชื่อ โดยในปี 2021 มาในคอนเซ็ปต์ “Colors of Nature” คือการใช้รูปแบบของภาพจากการมองผ่านกล้องคาเลโดสโคป (Kaleidoscopic) ในการแสดงสีสันของธรรมชาติ

โดยครั้งนี้คอลเล็คชั่น Blue Book ได้รวมผลงานระดับมาสเตอร์ของ ฌอง ชลัมเบร์เชร์ (Jean Schlumberger) เข้ากับการออกแบบเครื่องประดับชั้นสูงของ ทิฟฟานี่ แอนด์ โค. เพื่อให้ได้ผลงานที่มีความละเอียด ได้เฉดสีกว้าง ลุ่มลึก และครอบคลุมทุกสีสันในธรรมชาติ พร้อมผนวกเอาขุมทรัพย์อันแวววาวนี้เข้ากับมรดกทางงานฝีมือและนวัตกรรมชั้นยอดของ ทิฟฟานี่ แอนด์ โค. จนรังสรรค์ออกมาเป็น Blue Book คอลเล็คชั่นใหม่ที่จะพาคุณไปสัมผัสโลกของอัญมณีที่เหนือระดับกว่าที่เคย

คอลเล็คชั่น Blue Box ได้แรงบันดาลใจจากความงามและสีสันของธรรมชาติ ทั้งจากรูปแบบของพฤกษาอันเขียวชอุ่มและความมีชีวิตชีวาของอัญมณีสีเขียวอย่างทัวร์มาลีน (Tourmalines) และมรกตโคลัมเบียที่หาได้ยากนี้ชวนให้นึกถึงทัศนียภาพที่อุดมสมบูรณ์

ในขณะที่สีฟ้าครามของอความารีน (Aquamarines) ซาวอไรต์ (Tsavorites) และแซฟไฟร์ (Sapphires) แสดงออกถึงเฉดสีของผืนทะเลและสัตว์น้ำ

สำหรับอัญมณีสีเหลืองส้มที่หายากอย่างสปิเนล (Spinels) นั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากความสว่างของดวงดาวยามค่ำคืนทำให้ผู้ที่ได้เห็นถึงกับต้องเหลียวมอง ซึ่งดีไซน์ทั้งหมดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของเบื้องบนอีกด้วย
โดยอัญมณีรูปทรงหลายเหลี่ยมสะดุดตาชวนหลงใหล

คอลเล็คชั่นนี้เทียบได้กับการรวบรวมขุมทรัพย์ที่ถูกคัดสรรมาเฉพาะอัญมณีหลากสี ทำให้เห็นถึงความงามของสเป็กตรัมเฉดสีที่เปี่ยมด้วยอารมณ์บนสร้อยคอทั้ง 2 เส้นได้อย่างน่าประทับใจพร้อมสะกดสายตาด้วยเสน่ห์ของอัญมณีที่เป็นมรดกตกทอดอย่างแทนซาไนต์และคุนไซต์ที่ได้เปิดตัวสู่สายตาคนทั่วโลกอย่างภาคภูมิใจในช่วงศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา

ซึ่งการออกแบบที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ ทิฟฟานี่ แอนด์ โค.มาจากงานดีไซน์ของ ฌอง ชลัมเบร์เชร์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการเปรียบเสมือนการถ่ายทอดชีวิตใหม่ให้กับเครื่องประดับบรรจงสร้างสร้อยคอประดับเพชรกว่า 85 กะรัต
โดยตั้งใจแสดงออกถึงความไม่สมมาตร ให้มีความเคลื่อนไหว ไม่หยุดนิ่งและแสดงถึงความละเอียดอ่อนอันซับซ้อนของผู้หญิง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอัตลักษณ์ในผลงานของ ฌอง ชลัมเบร์เชร์

โดยเครื่องประดับของ ทิฟฟานี่ แอนด์ โค.เป็นการเจียระไนด้วยมืออย่างประณีตและพิถีพิถันตามความต้องการของผู้
สวมใส่เพื่อให้เกิดภาพโมเสกที่งดงามอย่างสร้อยคอประดับเพชรที่อยู่ในระนาบของคริสตัลเป็นการจัดวางอย่างมี
นัยสำคัญเพราะต้องการสื่อให้เห็นราวกับว่ามีเพชรลอยขึ้นมาอย่างโดดเด่นกลางอากาศ

โดยผลงานศิลปะที่ละเอียดประณีตถูกจัดแสดงภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Colors of Nature’ เผยความงามอันน่าประทับใจของเพชรกว่า 21 กะรัตที่ได้มาจากประเทศเลโซโธทวีปแอฟริกาโดยช่างฝีมือได้บรรจงเจียระไนภายในของเพชรให้เป็นรูปทรงกระโจมอย่างไร้ที่ติ และได้ส่งต่อความละเอียดนี้จากรุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นเอกลักษณ์ระดับโลกอันเป็นความภาคภูมิใจของ ทิฟฟานี่ แอนด์ โค.

โดยในเดือนเมษายน 2021 เครื่องประดับเกือบ 600 ชิ้นและงานออกแบบของ ฌอง ชลัมเบร์เชร์ จะถูกจัดแสดงในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนก่อนที่จะเดินทางไปเปิดตัว ณ เมืองอื่นๆ ทั่วโลก

คลัง Tiffany & Co. ของ ‘เนย-ศุภวดี’ นักสะสมหญิงไทยเจ้าของคอลเล็คชั่นระดับตำนาน

The post Blue Book ความงามและสีสันของธรรมชาติ คอลเล็คชั่นอันเลื่องชื่อ Tiffany&Co. appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

กลายเป็นอีก Must Have ไอเท็มที่ถูกจับตาทันที หลังเมซงเปิดตัวเรือนเวลากลไกอัตโนมัติตัวแรกในซีรีส์ Limelight Gala ของ เพียเจต์ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา และสำหรับสาวๆ ที่รออัพเดทล่าสุดปีนี้เตรียมจดลิสต์กันได้เลย

เพียเจต์ จะมาเปิดภาพให้ชมกันชัดๆ กับ 6 เรือนเวลาลิมิเต็ดประจำปี 2021 ที่เพิ่งเผยโฉมในงาน Watches & Wonders ไปหมาดๆ

เริ่มด้วย 3 โมเดลที่มาพร้อมกลไกอัตโนมัติล่าสุด 501P1 กับ Limelight Gala Precious Limited Editions ผลงานจากดวงอาทิตย์ กับ 3 โทนสีล่าสุดที่เมซงนำมาถอดรหัสให้ได้ชมในฤดูกาลนี้

Blue: Limelight Gala Precious Sunrise แสงอาทิตย์อ่อนๆ ในบรรยากาศท้องฟ้ายามเช้า

Yellow: Limelight Gala Precious Zenith แสงเหลืองอร่ามเหนือศีรษะ ณ เวลาเที่ยงวัน

Pink: Limelight Gala Precious Sunset ประกายนวลชมพูขณะเตรียมลับขอบฟ้า

Limelight Gala Precious Sunrise

เรือนเวลาที่หยิบประกายงามของดวงอาทิตย์ยามเช้าขณะซ่อนตัวอยู่หลังก้อนเมฆมาเล่าเรื่องราว – ตัวเรือนไวท์โกลด์ขนาด 32 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนตกแต่งด้วยแซฟไฟร์บริลเลียนต์คัตสีน้ำเงินไล่เฉดสี 32 เม็ด (ราว 4.70 กะรัต) และเพชรบริลเลียนต์คัต 10 เม็ด (ราว 0.90 กะรัต) หน้าปัดประดับเพชรกว่า 289 เม็ด (ราว 1.76 กะรัต) ซึ่งแต่ละเม็ดถูกฝังอย่างประณีตด้วยเทคนิค Snow Setting เข้าคู่สายรัดข้อมือที่ตกแต่งด้วยเทคนิคงานฝีมือแบบ Palace Décor ผลิตจำกัดเพียง 18 เรือน

Limelight Gala Precious Zenith

เรือนเวลาที่หยิบยืมความเจิดจรัสของดวงอาทิตย์ ขณะหยอกล้อเล่นแสงยามเที่ยงวันมาเป็นแรงบันดาลใจ – ตัวเรือนไวท์โกลด์ขนาด 32 มิลลิเมตร ผสมผสานแซฟไฟร์บริลเลียนต์คัตสีเหลืองไล่เฉดสี 32 เม็ด (ราว 4.70 กะรัต) กับเพชร บริลเลียนต์คัต 10 เม็ด (ราว 0.90 กะรัต) ไว้อย่างเข้ากัน หน้าปัดประดับเพชร 289 เม็ดด้วยเทคนิค Snow Setting จับคู่สายรัดข้อมือไฮจิวเวลรี่ที่สอดประสานเพชรบริลเลียนต์คัต 267 เม็ด และแซฟไฟร์สีเหลืองน้ำงามอีก 124 เม็ด ได้อย่างโดดเด่น ทั้งยังมอบสัมผัสที่บางเบาเป็นเนื้อเดียวกับข้อมือผลิตจำกัดเพียง 8 เรือนเท่านั้น

Limelight Gala Precious Sunset

เรือนเวลารับซัมเมอร์ที่มาพร้อมประกายอบอุ่นของดวงอาทิตย์ยามอัสดง – ตัวเรือนโรสโกลด์ขนาด 32 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนประดับด้วยแซฟไฟร์บริลเลียนต์คัตสีชมพูไล่เฉดสี 32 เม็ด (ราว 4.70 กะรัต) และเพชรบริลเลียนต์คัต 10 เม็ด (ราว 0.90 กะรัต) ตัดรับกับหน้าปัดมาเธอร์ออฟเพิร์ลสีขาวได้อย่างลงตัวจับคู่สายรัดข้อมือซาตินสีขาว ผลิตจำกัดเพียง 50 เรือน

Limelight Gala High Jewellery Black Opal

ต่อด้วยความสง่างามแบบที่ยากจะลอกเลียนกับ เรือนเวลาชั้นสูงที่มาพร้อมหน้าปัดประดับอัญมณีหายาก อย่าง
แบล็ค โอปอล ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องปรากฏการณ์แห่งสีสันที่ทอประกายนับไม่ถ้วนยามต้องแสง โดยปัจจุบันแบล็คโอปอลที่เมซงนำมาใช้คัดสรรจากแหล่งคุณภาพในออสเตรเลีย ขณะที่สายรัดข้อมือ ขาตัวเรือนและรอบหน้าปัดรายล้อมด้วยเพชรบริลเลียนต์คัต 91 เม็ด (ราว 5.25 กะรัต) และมรกตทรงมาร์คีส์ 83 เม็ด (ราว 8.18 กะรัต) โดยทรงมาร์คีส์นี้ถือเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของเมซง เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสมีประสงค์ให้ช่างฝีมือเจียระไนเพชรทรงใหม่ที่สะท้อนถึงรอยยิ้มงดงามของมาดามอันเป็นที่รักอย่าง Marquise de Pompadour ซึ่งปัจจุบันซิกเนเจอร์คัตเลื่องชื่อดังกล่าว ยังคงมอบประกายงามได้อย่างแตกต่างและชวนหลงใหลเช่นเคย นอกจากนี้ยังใส่กลไกควอตซ์ 56P ที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของแบรนด์เองไว้อีกด้วย

หรูหราลุคใหม่ในเฉดสีรุ้ง กับ Limelight Gala Rainbow

ความน่าสนใจของ Limelight Gala เฉดสีรุ้งเรือนนี้ นอกจากจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเมซงที่นำเสนอเรือนเวลาที่ผสานเข้ากับอัญมณีหลากหลายสีสันแล้ว ยังเสริมความเป็นเลิศด้วยการใส่ระบบกลไกอัตโนมัติแบบใหม่ล่าสุดที่ผลิตขึ้นในโรงงานของเมซง อย่าง 501P1 ไว้อีกด้วย ตัวเรือนโรสโกลด์ขนาด 32 มิลลิเมตร ขณะที่หน้าปัดและสายรัดข้อมือคราฟต์ขึ้นอย่างประณีตด้วยวัสดุชนิดเดียวกัน แต่พิเศษกว่าตรงที่แบรนด์เลือกใช้เทคนิคหัตถศิลป์เก่าแก่อย่าง Palace Décor มาผสานไว้ได้อย่างแยบยล โดยการแกะสลักแบบดั้งเดิมนี้ อาศัยทักษะจากช่างฝีมือที่ผ่านการฝึกฝนอย่างชำนาญจาก “Atelier de l’Extraordinaire” ซึ่งปัจจุบันมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้ กล่าวคือ ชิ้นส่วนหน้าปัดใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการตกแต่ง ขณะที่สายรัดข้อมือใช้เวลาเป็น 4 เท่าของหน้าปัดเลยทีเดียว

โดยแรงบันดาลใจหลักของแพทเทิร์นต่างๆ มักถ่ายทอดต้นแบบมาจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ขนนก คลื่น ผืนป่า ขนสัตว์ ทุ่งหญ้า เปลือกไม้ใบไม้ เกล็ดงู ตลอดจนความมหัศจรรย์อื่นๆ อีกมากมาย เพื่อเสริมประกายงามให้ดูเด่นขึ้นอีกขั้น แบรนด์เลือกตกแต่งขอบตัวเรือนด้วยเหล่าอัญมณีหลากสี อย่าง ซาวอไรต์ สีเขียว และ แซฟไฟร์ไล่เฉดตั้งแต่ สีแดง ส้ม เหลือง น้ำเงิน อินดิโก ไปจนถึงสีม่วง

โดยร้อยเรียงแต่ละเม็ดด้วยเทคนิค Serti Descendu ที่ช่วยเผยให้เห็นประกายงามได้ชัดเจนกว่าการฝังลงไปในเนื้อทองแบบที่ใช้ทั่วไปในปัจจุบัน ขณะที่การแสวงหาอัญมณีสีที่เข้ากับเรือนเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็ถือเป็นอีกความท้าทายอันดับต้น ๆ ที่เพียเจต์ให้ความสำคัญ และเพื่อผลลัพธ์ที่พึงพอใจที่สุด การสำรวจหินสีจำนวนมหาศาลจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากสีจะตรงกับความต้องการแล้ว

ขนาดและคุณภาพระดับสูงก็ต้องอยู่บนมาตรฐานที่เมซงรับรองด้วยเช่นกัน และนี่จริงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเรือนเวลาชิ้นนี้จึงเป็น Limited Piece ที่ควรค่าแก่การครอบครอง สนนราคา 3,370,000 บาท

Limelight Gala Mother-of-Pearl Palace

เรือนเวลาที่ผลิตจำกัดเพียง 300 เรือน มาพร้อมตัวเรือนโรสโกลด์ขนาด 26 มิลลิเมตรขอบตัวเรือนประดับเพชร บริลเลียนต์คัตรวม 60เม็ด (ราว 0.92 กะรัต) โอบล้อมหน้าปัดมาเธอร์ออฟเพิร์ลสีขาวที่แกะสลักด้วยเทคนิค Palace Décor ไว้อย่างเข้ากัน เข้าคู่สายหนังจระเข้สีขาวที่เสริมสไตล์ในแบบโมเดิร์นลักชัวรีอย่างมีเอกลักษณ์ สนนราคา 815,000 บาท

The post เพียเจต์ เปิด MUST HAVE ลิสต์! ปีนี้สาวๆ ควรมีเรือนไหนไว้ครอบครอง appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.